Night Museum

ห่างหายไปนาน ปลายปีก็ยุ่งๆนิดนึงค่ะ

เมื่อวานได้ไปนิทรรศการ Night Museum 

จัดที่ Museum Siam ค่ะ จะบอกว่างานนี้เจ๋งมากจิงๆ

งาน 19-21 ธันวาคม 2014 เวลา 16.00-22.00ค่ะ 

มีบริการรถรับส่ง มีที่จอดรถฟรีจ้าาา

Night Museum 5 ตอน ปลุกยักษ์

ภายในงานก็จะบอกถึงประวัติยักษ์แต่ละตน อาทิ ทศกัณฐ์ รามเกียรติ์ 

และอีกหลายตน รวมทั้งมีคนดังมากมาย

ที่ประสบความสำเร็จในชีวิตมาบอกเล่าถึง

การปลุกพลังชีวิตในตัวเอง สู่การเป็นเค้าในวันนี้ 

งานนี้ยังได้เดินชมพิพิธภัณฑ์กันฟรีๆด้วยย ฟรีตลอดงาน^_^

..

กว่าจะได้ไปก็2ทุ่มกว่าๆค่ะ รับสายข้อมือก่อนเดินเข้างานค่ะ

อากาศเย็นๆสบายๆ ภายในงานมีซุ้มให้ถ่ายรูปเยอะมากกกก 

สนุกสนานตามระเบียบ

พรอพส่วนมากจะชิ้นใหญ่ งานยักษ์นิ่เนอะ 

ลูกชิ้นปิ้งซักลูกมั๊ยคะ ?? 555

ในส่วนนี้ก็จะเป็นส่วนที่ให้ความรู้เรื่องยักษ์ ต้องไปยืนแบบพี่ผู้หญิงด้านหลัง

ตรงกล่องที่ห้อยลงมาถึงจะได้ยินค่ะ เสียงดังชัดเจนดีค่ะ

เรามาที่นี่กันนับครั้งไม่ได้แล้ว แต่นี่เปนครั้งแรกที่มากลางคืน 

คนโล่ง สนุกดี แม้ว่าข้างในตัวพิพิธภัณฑ์จะเหมือนเดิมก็ตาม

บลอคนี้ก็ไม่มีอะไรมาก เนื่องจากไปถึงก็ดึกแล้ว ไม่ได้ฟังยักษ์เลย  TT

ก็ถ้าใครเบื่อเดินห้างแล้ว  อยากแนะนำให้ลองมาเที่ยวพิพิธภัณฑ์ค่ะ 

ประเทศไทยเราตอนนี้มีพิพิธภัณฑ์ที่มีคุณภาพหลายที่มาก 

ไว้มีโอกาสจะมารีวิวนะคะ

สำหรับภายใน museum siam จะบอกเรื่องราวถึงความเป็นไทย 

ประวัติเรือประเภทต่างๆ และวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป 

มีชุดไทยให้ใส่ด้วยค่ะ

อันนี้เป็นไทยประยุกต์ค่ะ >\\\< 555

ความสนุกของทริปนี้คือการถ่ายรูป คนน้อยถ่ายมันส์เลยค่ะ 

โพสกันไม่เกรงใจตากล้องเลย (ขอให้คนที่เดินชมงานถ่ายค่ะ555)

ความฟินของการเดิน night musuem คือการได้เป็นตัวของตัวเองค่ะ 

เพราะมันนอกเวลาปกติ เราก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ในกรอบเหมือนปกติ 

(เกี่ยวป่ะ5555)

เราก็เลยเล่นโยคะกันก่อนกลับค่ะ 55555

...

หลังจากจบงานก็ไปหาของกินกันดีกว่า มาแถวนี้ก็ต้อง มนต์นมสด!! 

แต่ด้วยความที่อยากเปลี่ยนร้านบ้าง เห็นว่าร้านนี่ดังเหมือนกัน 

"นมโจ" 

ด้วยความคาดหวัง.....

สั่งเยอะนะ แต่ถ่ายมาแค่นี้ ...

ราคาพอๆกับมนต์นม แต่คุณภาพต่างเว่อร์!!

อยากรู้ มาลองค่ะ ^__^ แต่นี่ครั้งหน้าขอกลับไปรังเดิม 

ที่มนต์นมสดนะจ๊ะ 555

ของหวานเสร็จ ก็ของคาวกันบ้างงง  เอ๊ะ สลับกันป่ะ??

 เจ้านี้เขาว่าดัง "เอลวิส สุกี้"

เป็นไงๆ no filter ~ อร่อยมาก ชดเชยกับนมโจละกัน 5555

...

ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ ไว้จะมาอัพเรื่อยนะคะ :)

แอ่วเหนือ 2014 : Day 1 - 2

ชีพจรลงเท้ากันอีกครั้ง ไม่รู้มีคนอ่านป่าว 5555 แต่อยากเล่า ^__^

ทริปนี้ไปแอ่วเหนือเจ้าาาา ปลายทางคือเชียงใหม่ 

แต่เอาจริงๆเราอยู่ลำพูนกันมากกว่านะ ไปทำบุญทอดกฐินกันนะเจ้า

ณ วัดล้อยเดื่อ อ.สารภี จ.เชียงใหม่ 

(คือมันอยู่ก้ำกึ่งระหว่างลำพูนกับเชียงใหม่เลยอ่ะ)

ทริปนี้เราไปกันแบบ คาราวานรถตู้ จัดไป 6คันค่ะ VIP Van ใช้walky talky 

สื่อสารระหว่างคันค่ะ สนใจสอบถามได้นะ ขับดี อัธยาศัยดี รถDVD 

เครื่องเสียงพร้อม นี่เป็นโฉมหน้ารถและคนขับรถค่ะ 

รถเราคือคนที่ใส่เสื้อขาวจ้าา เป็นไง ยังหนุ่มๆกันหมดเลย

 คุยง่ายพูดรู้เรื่อง แนะนำที่เที่ยวได้ค่ะ 

...

อ่ะ กลับมาที่ทริปของเรา ไปกัน 4วัน 3คืน

เป็นทริป ส.ว.  (สูงวัย) นะจ๊ะ แล้ว่ละคนอึดมาก อายุส่วนมากอยู่ระหว่าง 

 60ตอนปลาย- 80ตอนต้น ทริปนี้ประมาณ 60คนค่ะ มีพระอีก 8รูป 

ออกเดินทางประมาณเที่ยงคืนวันศุกร์ด้วยรถตู้ ยิงยาวไปลำปางเที่ยวก่อน 

ที่แรกเลย วัดพระธาตุลำปางหลวง

ที่นี่จุดเด่นก็ในโบสถ์ค่ะ จะมีช่องแสงสะท้อนเงาจากพระธาตุลงมา

 เงานะคะไม่ใช่ภาพวาด

มาลำปางก็ต่องมีรถม้า ^__^ม้าร้อนแดดอ่ะ ไม่ค่อยสู้กล้องเลย

...

ออกจากพระธาตุลำปางหลวง เราไปต่อที่วัดพระธาตหริภุญชัยค่ะ

เขาเริ่มประดับประดาวัดต้อนรับเทศกาลยี่เป็งแล้วว  ดูสวยดีเนอะ

พระธาตุกำลังซ่อมบำรุงค่ะ

ไหว้พระเสร็จแล้วเราก็แวะไปต้มไข่ที่น้ำพุร้อนสันกำแพงค่ะ ค่าเข้าคนละ40บาท 

ไข่ชลอมละ20บาท มีไข่ไก่ กับ ไข่นกกระทา

นี่ค่ะบ่อน้ำพุร้อน เมื่อก่อนอาจจะเป็นบ่อธรรมชาติ แต่ปัจจุบันคิดว่าไม่น่าจะใช่บ่อธรรมชาติ 

เนื่องจากมีการต่อท่อ และมีเครื่องทำอุณหภูมิค่ะ  

ต้มไข่กันเถอะ

สะดวกมากเลยมีตะขอให้แขวนชลอม ^^และเพิ่งรู้ว่าหวายที่ทำชลอมนี่แข็งแรงมาก  

ทนความร้อนได้ดีสุดๆค่ะ เพราะน้ำร้อนมาก แต่ชลอมไม่เป็นอะไรเลย 

บริเวณนี่กลิ่นไข่ต้มฟุ้งงง

ต้มไว้10นาที ตอกไข่ดู .. น้ำเยิ้มเลยจ้าาาา มันยังไม่สุก 

และมันเละเกินกว่าจะเป็นไข่มะตูม 

เลยต่ออีกซัก5นาที ....

 ไข่ไก่ไม่ผ่านค่ะ  แต่ไข่นกกระทาอร่อยมากมันจะเหมือน

มียางนิดอ่ะ ดีสุดๆ

(วิธีการปลอกไข่ต้มง่ายๆ : หลังจากเอาขึ้นจากน้ำร้อนให้เอาแช่น้ำเย็นทันทีค่ะ 

ทิ้งไว้สักพักค่อยตอกเปลือกไข่ ลื่นปื๊ดเบยยย) 

 หลังจากได้ไข่มาแล้ว ไปนั่งแช่เท้าสะหน่อย หาทำเลหน่อยนะคะ 

เพราะช่วงใกล้ๆบ่อต้มไข่น้ำจะร้อนมาก แช่ไม่ไหวค่ะ ร้อนกว่าออนเซนอีก 

เหยิบไปข้างในหน่อยน้ำจะร้อนกำลังดีค่ะ 

น้ำลึกประมาณเข่าค่ะ เดินได้ แต่ตะไคร่เยอะมาก ระวังลื่นนะคะ ^^

เสร็จแล้วก็ขึ้นรถเดินทางไปที่พักค่ะ

ระหว่างทางตอกไข่กินดีกว่า

ฟินนนนน ~

....

ค่ำคืนนี้เราจะนอนไหน!?? หึหึหึ 

มางานกฐิน มากับพระ มากับท่านสว. (สูงวัย)

นอนวัดจ้าาาาา .... วัดล้องเดื่อ จ.เชียงใหม่

ตอนเห็นที่พักแอบตกใจนิดนึง นี่นอนนี่จริงๆหรอ เพราะมันเป็นห้องกระจก 

เป็นระหว่างทางเดินมองเข้าไปเห็นหมดเลย แล้วนอนกี่คน!? 

มากัน6คันนะ 60กว่าคน นอนนี่หมด!? ไม่น๊าาา

         นี่ค่ะ ที่พักของเรา สำหรับทริปนี้ 

ปูที่นอนลงไปแล้วค่อยโอเคหน่อย ห้องพัดลมค่ะ กลางคืนมีเสียงตุ๊กแกด้วย 5555

แต่เราคงไม่เบียดกันหมดในนี้ บางส่วนก็นอนบนศาลา บางส่วนก็ตามบ้านชาวบ้านอ่ะคะ

ลองเดินหาที่พักเช่า แต่มันไม่มีจริงๆอ่ะ 

เห็นที่พักแล้ว มาดูห้องน้ำกันค่ะ 55555

นี่ๆ รอคิวอาบน้ำ บางห้องก็ฝักบัว บางห้องก็ตุ่มใส่น้ำ 

ไม่มีที่แขวนผ้า  ต้องเอาเก้าอี้เข้าไปตั้งค่ะ

หน้าห้องน้ำเยื้องๆ เป็นโรงครัวค่ะ

...

หลังจากเราเซอเว สถานที่แล้วก็ไปทานมื้อเย็นค่ะ ทางวัดกับชาวบ้านจัดโต๊ะจีน

 และมีนักร้องมาร้องเพลงให้รำวงค่ะ น่ารักดีนะ 

4ทุ่มแยกย้ายเข้านอนค่ะ พรุ่งนี้มีงานกฐิน

เดี๋ยวมาอัพต่อนะคะ ^^

ทริปใจง่าย : วัดพุทโธสามพราน วัดไร่ขิง

23 ตุลาคม 2557 คือวันปิยะมหาราช 

ก็เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของรัชกาลที่5 ค่ะ

..

วันหยุดดดด เพื่อนๆไปไหนกัน ?? หรือนอนพักผ่อนที่บ้านคะ ^^

..

มาอัพบลอคแบบนี้ ไม่ต้องสงสัยค่ะ 

ออกทริปอีกแล้วว 

เป็นทริปใจง่ายเช่นเคยค่ะ ไม่มีการวางแผน 

รู้แค่ชีพจรลงเท้า กำหนดพิกัดคร่าวๆ แล้วไปเลยค่ะ

ทริปนี้เราไปกันไม่ไกลมาก ไปสามพราน 

ก่อนถึงนครปฐมนิดนึงง .. พิกัดคือวัดพุทโธสามพราน .. 

ประวัติความเป็นมาไม่รู้มาก่อน พอดีแม่เจอเว็บแนะนำ 

เห็นรูปแล้วอยากไป  ตามใจแม่ค่ะ ^___^ 

(ส่วนประวัติ หาเอาเองนะจ๊ะ)

..

เราออกเดินทาง เวลาประมาณ 13.00น ออกสายไปหน่อย 

แต่เราไม่รีบ ก่อนไปเราก็แวะไปวัดแถววัดปากน้ำภาษีเจริญสักหน่อยค่ะ... 

วัดปากน้ำไปบ่อยแล้ว เพิ่งรู้ว่ายังมีวัดที่น่าสนใจอยู่รอบๆคะ 

ตรงทางแยกเข้าวัด ถ้าแยกซ้ายข้ามสะพานไป

จะเป็นวัดปากน้ำภาษีเจริญ แต่ครั้งนี้ขอเลี้ยวขวาเข้าซอยเล็กๆค่ะ 

ขับเข้าซอยไปเรื่อยๆ หาแม่น้ำให้เจอ 

เดี๋ยวก็เจอวัดค่ะ

นี่คือวัดพระพุทธเจ้า 28 พระองค์ เป็นวัดเล็กๆ 

คนไม่พลุกพล่าน สะอาดค่ะ 

วัดนี้ไม่มีประตูวัด มีแต่โบสถ์ 

และสามารถเดินไปวัดอื่นๆได้สะดวก

เช่นวัดปากน้ำ หรือวัดวรามาตยภัณฑ-

สาราราม (วัดขุนจันทร์ )ก็ได้ค่ะ

หลังจากเราสักการะและรับน้ำมนต์

เพื่อความเป็นสิริมงคลแล้ว

..

เราก็เดิมข้ามสะพานข้ามแม่น้ำ

ไปวัดขุนจันทร์กันค่ะ

..

ที่น่าสนใจของวัดนี้คือองค์พระต่างๆ 

สร้างใหญ่ค่ะ ดึงดูดได้ดีพอสมควร

สักการะเสร็จก็ข้ามกลับมาเอารถ ขับไปจุดหมายหลักของเรากันเลยยย 

..

ออกจากวัดประมาณ  13.30 น. 

(ทำเวลาสุดๆไหว้สองวัดภายในไม่ถึงครึ่งชั่วโมง)

.. 

ออกจากวัดตรงไปตามเส้นเพชรเกษม 

ตรงอย่างเดียว  

พอเริ่มเห็นป้ายนครปฐม 

ก็เปิด google map นำทางค่ะ 

พาเข้าทางลัดตลอดดดด --" 

จะว่าดีก็ดีแต่ทางมันก็ลึกจนน่ากลัว

สำหรับผู้หญิงสามคน ... 

โผล่ออกมาถนนใหญ่ 

ก็เจอวัดเลยค่ะ เห็นตึกมังกรเด่นเป็นสง่า

วัดค่อนข้างเงียบ บรรยากาศวัดดูวังเวงพิกล 

แต่ธรรมชาติดีค่ะ ขับเข้าไป

 มีบ่อล้างล้อรถด้วยยย

ลงจากรถก็เข้าไปเดินชมสวนค่ะ

เป็นสวนสำหรับผู้มาปฏิบัติธรรม

 ไว้เดินจงกลมค่ะ ร่มรื่นมาก 

แต่ส่วนตัวรู้สึกอึดอัดๆแปลกๆ .. 

เดินสำรวจไปเรื่อยๆ ที่พื้นจะเป็นรอยเท้าคน

เป็นแบบนี้ตลอดทาง 

ก็แปลกดีค่ะ คนเดินจงกลมน่าจะ

ได้เห็นชื่อบนพื้น 

และส่งบุญต่อไปยังเจ้าของชื่อ

(คิดเองค่ะ555) 2 in 1

ทุกพื้นที่ในวัด มีชื่อคนทำบุญหมดเลยค่ะ
ทั้งที่เป็นเท้าพร้อมชื่อ  มือพร้อมชื่อก็มีค่ะ

 เพิ่งสังเกตุว่าสองข้างทางของทางเดิน

 คือสุสานค่ะ!!! 

คือมีทั้งที่เก็บเถ้ากระดูก และศาลต่างๆ 

มิน่าถึงรู้สึกแปลกๆ ..

คิดว่าถ้าเดินตอนกลางคืน น่าจะหลอนมาก 

ด้วยต้นไม้ที่เป็นไทรและเถาวัลย์

ปกคลุมอย่างหนาทึบ 

และของตกแต่งสองข้างทาง 

แต่คิดว่าน่าจะทำให้ผู้ปฏิบัติธรรม

ได้ปลงสังเวชค่ะ

...

เปลี่ยนบรรยากาศมั่ง ลงไปด้านใต้อาคาร 

จะเป็นคล้ายๆพิพิธภัณฑ์ 

มีแม่ชีต้อนรับเป็นอย่างดีค่ะ ก่อนลงจะเจอนกยูงรำแพนหางตัวใหญ่มากกกกก 

ไปยืนใกล้ๆแอบน่ากลัวอ่ะ

..

นี่เป็นหุ่นขี้ผึ้ง 8รัชกาล

ส่วนนี่เป็นน้ำบัวบานค่ะ เป็นน้ำดื่ม 

แต่เราไม่สามารถเปิดดื่มได้ทันทีค่ะ

ขั้นแรก มาตั้งจิตอธิษฐานกับตู้นี้ก่อน 

(คล้ายตู้เซียมซีตามวัดเลย) 

หลังจากอธิษฐาน ก็หยอดไป 5 บาท 

รอจนไฟวิ่งเสร็จ

ได้"เนกขัมมะ" แม่ชีบอกว่าให้หาเวลามาบวช ..
กดน้ำออกมา ก็ยังดื่มไม่ได้ค่ะ 

แม่ชีจะสวดให้เราก่อน และให้เราอธิษฐานตามป้ายอีกรอบ 

จากนั้นก็ทั้งดื่มและล้างหน้าได้เลยค่ะ 

แม่ชีบอกว่า รสชาติน้ำแต่ละช่องไม่เหมือนกัน 

บ้างก็ฝ่านๆ บ้างก็ขม บ้างก็หวาน 

(ความเชื่อส่วนบุคคลค่ะ)

ก็แปลกดี ถือเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจค่ะ ^^ หลังจากนั้น 

เราก็ขึ้นไปชั้นบนสุดเลย 

ซึ่งบนนี้จะเปิดเฉพาะวันพระ 

และวันสำคัญเท่านั้น....วันนี้โชคดีค่ะเปิด!!

งามมากเลย.. ขึ้นไปไม่มีใครเลย

มีแค่เราสามคน 

มีแม่ชีมาต้อนรับอย่างดี 

พร้อมแนะนำส่วนต่างๆ 

ฟ้าครึ้ม และร้องดังมาก เราไปเดินเวียน

ใต้ฐานพระสามรอบ 

เมื่อเริ่มเวียน ฝนก็เริ่มตก ลมพัดแรง ...

 พอครบสามรอบ 

ลมพัดระฆังดังพอดีและฝนหยุด.... 

( ส่วนตัวแอบคิดว่าแปลกดีแฮะ!! 

หรือบังเอิญหว่า ) 

แล้วแม่ชีก็พาเข้าไปในโบสถ์ สวยมากกกกก

...

หลังจากชื่นชมบรรยากาศด้านบนพอสมควร ได้เวลาไปตึกมังกรแล้วววว

..

ภายในตึกก็เดินได้แค่ชั้นล่าง 

ข้างบนห้ามขึ้นค่ะ 

ต้องมีบัตรแตะประตู ถึงจะเปิดเข้าไปได้ TT

มาเดินด้านนอกดีกว่า ข้างในมืดๆ มีหีบศพพระด้วย รู้สึกอึดอัดแปลกๆ

อากาศดีค่ะวันนี้ ลมดี ไม่มีแดด 

ฝนตกพอเย็นๆ 

...

แตะอธิษฐานเล็บมังกรค่ะ

นี่เป็นทำนาย 12 ราศีค่ะ

บรรยากาศสงบ ร่มรื่น อากาศดี 

แต่แอบน่ากลัวด้วยรูปปั้นมั้งคะ

เดินต่อไปที่ถ้ำพญาเต่า

ทางเข้าเหมือนเรากำลัง

ขึ้นยาน UFO ปากเต่าพับปิดได้อ่ะ

ในถ้ำมืดค่ะ แต่ก็ไม่มีอะไร 

ออกจากถ้ำเจอ ร.5  

สักการะค่ะ 

(วันของท่านพอดีด้วย) 

17.00 แล้ววว 

ไปไหนต่อดี...??

จะไปไหนได้เวลานี้!!!

ขากลับผ่านวัดไร่ขิง เข้าไปสะหน่อยย

ทำบุญกันค่ะ^_^

เจอคุณลุงขอทานเงินล้านด้วย 

มีคนถ่ายรูปคู่ด้วย 

ว่าจะไปถ่ายด้วย แต่ตอนนั้นรีบและ

ในตัวไม่มีเงินเลย 

คงไม่ดี เสียดายจุงงง 

(ลุงที่เอาเงินทำทานถวายวัดเป็นล้าน

ที่ออกข่าวค่ะ) 

แม่เอาผ้าไปถวาย ห่มพระประธานค่ะ

องค์ใหญ่ปีนไม่ได้สูงไป เลยห่มองค์รองแทน

มีคนมาถ่ายรูปด้วย ^^

..

อนุโมทนาบุญนะคะ

ใครอยากหาที่ปฏิบัติธรรม หรือหาที่นั่งสมาธิเงียบๆ
วัดพุทโธสามพราน ก็เหมาะดีนะคะ ลองไปดูค่ะ

แล้วพบกันใหม่ทริปหน้าค่ะ ^__^