วันอาทิตย์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2558

โรงภาษีร้อยชักสาม

เคยถามตัวเองบ่อยครั้งว่ากรุงเทพมหานคร  
นอกจากห้างสรรพสินค้า  มีอะไรอีกบ้าง
ที่น่าสนใจ .. ??

..
นี่จึงเป็นที่มาของการหาที่เที่ยวภายใน และ  รอบๆกรุงเทพมหานคร 

วันนี้ขอนำเสนอสถานที่ถ่ายรูปสุดคลาสสิค
 ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา




สถานที่แห่งนี้คือ  สถานีดับเพลิงบางรักค่ะ 
อยู่ใกล้กับไปรษณีย์กลางบางรัก 
เข้าซอยเจริญกรุง 36 
ตรงมาสุดซอยเลยค่ะ





ก็จะเจอป้ายแบบนี้




กับทางเข้าแบบนี้ แปลว่ามาถูกที่แล้วค่ะ




ที่นี่เหมาะมากค่ะกับคนชอบถ่ายรูปแนวเก่าๆสไตล์ยุโรป 





บรรยากาศได้มากๆ



ขอเล่าประวัติที่นี่ซักนิดนะคะ

ที่นี่แต่เดิมเป็น “ศุลกสถาน” หรือ ที่รู้จักในปัจจุบันว่า"กรมศุลกากร" 
สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อประมาณ
ปี พ.ศ. 2433 
ใช้เพื่อเป็นที่ทำการเก็บภาษีสินค้าขาเข้า



ศุลกสถานเรียกอีกชื่อว่า 
“โรงภาษีร้อยชักสาม” 
เป็นด่านศุลกากรซึ่งพ่อค้าชาวต่างชาติ
เข้ามาติดต่อเพื่อนำสินค้าเข้ามา
จำหน่ายในประเทศ 

เพราะแต่เดิมบริเวณนี้ถือเป็นปากประตู
สุดแดนพระนครใต้ 
เมื่อเรือสินค้าเข้ามาจากปากแม่น้ำก็ต้อง
ผ่านจุดตั้งด่านเก็บภาษี
ที่ตั้งอยู่ทั้งฝั่งบางรักและคลองสาน 
ซึ่งมีหน้าที่ตรวจตราเรือสินค้า
จากประเทศต่างๆ


โดยมิสเตอร์กราสสี นายช่างชาวอิตาเลียนเป็นผู้ออกแบบและรับเหมาก่อสร้าง 
ตัวอาคารตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา 
ลักษณะเป็นอาคาร 3 ชั้น ทันสมัยที่สุด
ในเวลานั้น 

อาคารนี้มีรูปแบบสถาปัตยกรรม
นีโอ-ปัลลาเดียน (Neo-Palladion) 
ศิลปะโรมัน+คลาสสิค อายุกว่า 120 ปี 


นอกจากนี้ทางราชการยังเคยใช้ศุลกสถาน
ชั้นที่ 3 เป็นสถานที่เต้นรำของชาวต่างชาติ ในวันเฉลิมพระชนม์พรรษา 2 - 3 ครั้ง 
รวมทั้งงานสมโภช เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว 
เสด็จกลับจากยุโรปครั้งแรกด้วย


ปัจจุบันเป็นที่ทำการของตำรวจน้ำ 
และสถานีตำรวจดับเพลิงบางรัก 

แม้สภาพจะเสื่อมโทรม แต่ภายในนี้ก็
เป็นที่อยู่อาศัยของพนักงานดับเพลิง
และตำรวจน้ำค่ะ




ด้วยข้อจำกัดของงบประมาณในการดูแลรักษา ตัวอาคารเลยดูเก่าและเสื่อมโทรมลงทุกวัน พื้นไม้ก็ชำรุดแบบนี้ค่ะ





 ทำให้กรมธนารักษ์ ที่เป็นผู้ดูแลรักษา
สถานที่แห่งนี้ตัดสินใจเปิดประมูล
ให้เอกชนเข้ามาดูแล 
ซึ่งก็ประมูลเรียบร้อยไปแล้วตั้งแต่ปี2548 

..

ตามแหล่งข้อมูลที่ได้มาบอกว่า
ที่แห่งนี้ภายใน10ปีจะถูกแปลงสภาพ
เป็นโรงแรมสุดหรูริมแม่น้ำ  

และไม่แน่ใจว่าอาคาร3หลังนี้จะถูกรื้อออก  หรืออาจจะบูรณะเป็นที่จัดงานแสดงสินค้าโอทอป

..

แต่นี่ก็ผ่านมา10ปีพอดี 
พนักงานก็ยังอาศัยอยู่เหมือนเดิม
มีเพียงตัวอาคารที่ทรุดโทรมเปลี่ยนแปลงไป




คนมากมายนิยมมาถ่ายรูปทั้งรับปริญญา 
 งานแต่งงาน  แฟชั่น  ถ่ายละคร  เป็นต้นค่ะ




จริงๆสามารถถ่ายรูปได้แค่ชั้นล่างนะคะ  เพราะด้านบนพนักงานเขาอยู่ค่ะ  
ด้วยความที่ไม่รู้  เลยได้ขึ้นไป
เก็บภาพด้านบนมานิดนึงค่ะ  ^^




เดินขึ้นมาแล้วเจอภาพนี้.....
ก็แอบหลอนเบาๆนะคะ


วิวจากชั้น2ค่ะ


นี่ก็เป็นผู้ดูแลสถานที่ค่ะ

ใครบ้านใกล้หรือสนใจก็รีบไปชม 
หรือถ่ายรูปสวยๆ 
ก่อนอะไรจะเปลี่ยนแปลงไปนะคะ 



วันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2558

BANGKOK CITY CITY GALLERY : MELO HOUSE


วันนี้เบื่อๆ ไม่รู้จะไปไหนดี 
พี่ชายเลยแนะนำให้ไปแกลเลอรี่เปิดใหม่แถวบ้าน 
เชคข้อมูล อุ้ยๆ Exhibition "มะม่วงจัง" ของคุณตั้ม 
Wisut Pornnimit ชอบอ่ะ 

(ประเดิมเปิดแกลเลอรี่นี้เลยทีเดียว )



งานมีตั้งแต่ 26 ส.ค. - 11 ต.ค. 2558 ที่ Bangkok City City Gallery 
อยู่ในสาทรซอย 1 

เดินทางง่ายมากสามารถมารถไฟใต้ดิน (MRT) 
ไปลงที่สถานีลุมพินี ขึ้นประตู 2 ซอยอยู่ติดกับตึก Q-House เดินเข้าไปไม่ลึกมาก 
จะเจอตึกสีขาวทางซ้ายมือ 

ถึงแล้วววว





ขับรถไปก็ได้เช่นกันค่ะ มีลานจอดรถ แต่ไม่แน่ใจเสียค่าจอดป่าว

Bangkok City City Gallery 
เป็นสถานที่จัด Exhibition เล็กๆ 
ขนาดย่อมเยาว์ 

งานครั้งนี้มีชื่อว่า Melo House 
Wisut Pornnimit



ที่นี่แบ่งออกเป็น2โซน โซนด้านซ้ายจะเป็นที่จำหน่ายของที่ระลึก 
และมุมกาแฟเล็ก  ส่วนด้านขวาจะเป็นโซนแสดงนิทรรศการ

อย่ารอช้า เปิดประตูเข้าไปชมกันเลยค่ะ 
งานนี้ ฟรี!! 



เข้าไปแล้วจะเจอห้องจัดแสดงงาน และจะต้องฝากกระเป๋าก่อน 
สามารถนำของมีค่าและโทรศัพท์เข้าไปได้ค่ะ 




การจัดแสดงจะเป็นเหมือนการเล่าเรื่อง ซึ่งทางเดินจะเป็นทางวงกต 
ให้เราอ่านเรื่องตามภาพไปเรื่อยๆ มีตอนจบทั้งหมด 9ตอนค่ะ



เข้าข้างในกันดีกว่า โดยจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดคือ 
2 ภาพด้านหน้าทางเข้านี้ค่ะ

พอเข้าไปแล้ว ก็เดินอ่านภาพไปเรื่อยๆ




เปิดห้องนี้ ไปโผล่ห้องนั้น




เอ๊ะ ไปทางไหนดีนะ ???



ซ้าย ขวา ดีนะ ??!? 



...ทางนี้แล้วกัน

เย้ยยยย  เกิดไรขึ้นเนี่ยยยย!!!?? ตูมมมมม


..

สามารถเดินวนอยู่ในนั่นจนกว่าจะพอใจหรือเจอจนครบ9ตอนเลยค่ะ  

จบแต่ละตอนก็จะมีคำเกร๋ๆ กับ
หมายเลขตอนบอก




ดูครบแล้วววก็ยังสามารถเดินออกมาเข้าไปใหม่ได้ด้วยค่ะ



ด้านนอกจะมีภาพวีดีโอจากมุมบน 
ให้เราดูบรรยากาศด้านใน 
ว่าใครเดินไปห้องไหนบ้าง

เมื่อเดินดูจนพอใจแล้ว ก็ไปห้องจำหน่ายของที่ระลึกกันบ้าง 
มีมุมขายเสื้อผ้าเล็กๆ 

...

แต่ราคาไม่เล็กเท่าไหร่ 555




ขอจัดไอติม 1แท่ง แท่งละ80บาทแทนละกัน มี2รสให้เลือกค่ะ 
ระหว่างมะนาวกับมะม่วง 



คนกินมะม่วงเยอะแล้ว มะนาวละกัน 
เปรี้ยวสุด!
..

นอกจากนี้ยังมีหนังสือของพี่ตั้ม
วางไว้ให้อ่านด้วยค่ะ



ใครเป็นแฟนคลับ หรือสนใจ
ลองมาดูนะคะ เพลินๆดี  

การ์ตูนน่ารัก
 จัดถึง 11 ตุลาคม 2558 นี้นะคะ ^^