วันเสาร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2561

เที่ยวในกรุง : เขาดิน



"สวนสัตว์ดุสิต หรือ สวนสัตว์เขาดินวนา"

สวนสัตว์ในกรุงเทพฯ และแห่งแรกในประเทศไทย
ที่เราต่างรู้จักและคุ้นหูกันดี 
ตั้งแต่ครั้งที่พวกเรายังเป็นเด็ก
มีอายุ 80 ปี กำลังจะปิดตัวลงแล้ว 



ระหว่างที่รอสร้างที่ใหม่เสร็จ (คลองหลวง6 )
ก็เริ่มมีการทยอยย้ายสัตว์
ไปกระจายตามสวนสัตว์ต่างๆในประเทศไทย

ครั้งสุดท้ายที่ได้มาคือปีที่แล้ว 16/07/2018
หลังจากที่ไม่ได้มาอีกเลยเกือบ 20 ปี




ความทรงจำเมื่อปีที่แล้ว สวนสัตว์ดูเงียบหงอย
สัตว์ดูซึมเศร้า ไร้ชีวิต สามารถนับจำนวนคนเดินได้เลย
(รูปปีที่แล้ว)
..

ปีนี้ พอทราบข่าวว่ากำลังจะปิด
เลยไปกันอีกซักครั้ง เพื่อเก็บบันทึกความทรงจำดีๆ
กับ "เขาดิน"


สิ่งที่พบคือ คนมากันเยอะมาก
บรรยากาศคุ้นตาในวัยเด็ก เริ่มมีให้เห็น ให้นึกถึง

พ่อแม่เข็นรถเด็ก พาลูกจูงหลานมาเที่ยวกัน
มาปิคนิคกันเบาๆ ปู่ ย่า ตา ยาย
มันเป็นภาพที่ดีมากๆเลยนะ สำหรับยุคปัจจุบัน

เพราะโดยปกติ เราจะเห็นพาไปเดินห้างกันมากกว่า

..



บัตรราคา 100 บาท

เริ่มทริปด้วยการไปหาโคอาล่าาาา
กรงใหญ่มากกก มีตัวเดียวอ่ะแกร ที่สำคัญ เราหาไม่เจอ




ฮ่าๆๆๆๆ มันคงเขิน เพราะคนมาเยอะผิดปกติ
อ่อ โคอาล่า ไม่ใช่หมีนะ 
มันเป็นสัตว์ประเภทเดียวกับ จิงโจ้






ที่นี่มีทั้ง โคอาล่า เพนกวิ้น ฟามิงโก้ หมีดำ
เสือ สิงห์ กวาง นก ลิง งู และอีกมากมายให้เราได้ชม





ที่สังเกตุได้จากความเปลี่ยนไปของสัตว์คือ
ส่วนใหญ่มันดูคึกคัก สดใส 
ไม่ซึมเหมือนปีที่แล้วที่เรามาเจอ

ชีวิตกลับมามีสีสันอีกครั้ง





โดยเฉพาแม่มะลิ ฮิปโปอ้วนพีของเรานีงายยย



นางอายุ 52 ปี แล้ว รู้งานสุดๆ เล่นกล้องเก่ง

......

แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังมีบางตัว ที่หมดอารมณ์จะร่าเริง
หรือตื่นตาตื่นใจไปกับผู้คนซะแล้ว





ราชสีห์ของเรานั่นเอง 
อายุเยอะมากแล้ว ก็จะเบื่อๆนอยๆ ผ่านโลกมาเยอะ
ขอนอนนิ่งๆดีกว่า งี้ป่ะแกร



ที่นี่มีสวนน้ำเล็กๆให้เด็กเล่น
มีมุมต่างๆให้ถ่ายรูปเล่นมากมาย

อยู่ท่ามกลางธรรมชาติมากๆ ในเนื้อที่ 118ไร่





มีหลุมหลบภัยสาธารณะด้วย
เป็นการบ่งบอกถึงสภาพการเมืองในอดีตได้ดีมาก



วันที่เราไป ฝนฟ้าไม่ค่อยเป็นใจ




แต่ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการเข้าชมของทุกคนเลยจริงๆ














เพลิดเพลืนไปกับการดูสัตว์ชนิดต่างๆ
จนบางทีก็ลืมไปเลยว่า ฝนตกอยู่นะ





ลองหาเวลามากันนะ
วันสุดท้ายรู้สึกจะเปิดถึง 30 กันยายน 2018




DUSIT ZOO

เที่ยวในกรุง : พิพิธบางลำพู


สวัสดีค่ะ คราวนี้กลับมาพาไปเที่ยวในฝั่งพระนครกันบ้าง

สถานที่ ที่เรากำลังแนะนำนี้ 
ก็ไปมาหลายรอบมากๆแล้ว
แต่ยังไม่เคยเขียนบันทึกเป็นเรื่องเป็นราวสักที
ที่นี่ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่ส่วนตัวไปแล้วก็ไม่เบื่อ

อาจเพราะเทคนิค และอุปกรณ์การนำเสนอ 



ถ้าให้นึกถึง พิพิธภัณฑ์ โดยความรู้สึกส่วนตัวแรก
เรารู้สึกว่ามันไม่น่าสนใจ มันมีแต่ของพังๆ 
ใช้การจริงไม่ค่อยได้ เก่าๆ ไม่ทันสมัย 

และนั่นคือภาพที่ติดตา ติดความรู้สึกเรา 

จนกระทั่งมา เมื่อประมาณ 5-6 ปีที่แล้ว
ได้เจอเพื่อนกลุ่มนึง ที่พาเราไปเปลี่ยนโลก 
เปลี่ยมมุมมอง และความคิดที่มีต่อ 
พิพิธภัณฑ์ ในประเทศไทย โดยสิ้นเชิง

เดี๋ยวนี้เขาพัฒนาแล้ววววววว

หลังจากที่เราได้สัมผัสกับความใหม่
ของหลายๆพิพิธภัณฑ์
เราก็รู้สึกสนุก และมีความสุขทุกครั้งที่ได้ไป 
แล้วจะมาทยอยบันทึกให้ได้อ่านกันนะคะ

ไปเริ่มกันที่ พิพิธบางลำพู ค่ะ



( มาจาก พิพิธภัณฑ์ + ชุมชนบางลำพู ) 



ครั้งนี้มีน้องมิ้นกับคุณแม่น้องมิ้นมาเป็นแบบให้ค่ะ 
โทษฐานที่ถ่ายรูปขึ้น ฮ่าๆๆๆๆ

พิพิธบางลำพู เป็นพิพิธภัณฑ์ร่วมสมัย 
มีการประยุกต์เรื่องราวชุมชนบางลำพูในอดีต 
และวิถีชีวิตในปัจจุบัน ให้เราเข้าใจง่ายมากๆ




แต่เดิมสถานที่แห่งนี้เป็นอาคาร
โรงเรียนช่างพิมพ์วัดสังเวช 
( เป็นโรงพิมพ์คุรุสภา และสถานที่ผึกสอน
ช่างพิมพ์แห่งแรกของประเทศไทย )


ปัจจุบันที่นี่อยู่ภายใต้การดูแลของ กรมธนารักษ์ 
ได้มีการบูรณะซ่อมแซมอาคารและจัดเป็นพิพิบางลำพู ให้คนรุ่นใหม่ได้เข้ามาทำความรู้จักกันค่ะ

บางคนน่าจะสงสัยว่า กรมธนารักษ์คืออะไร


กรมธนารักษ์ อยู่ภายใต้สังกัดของกระทรวงการคลัง 
มีหน้าที่ผลิตเหรียญกษาปณ์ หรือเหรียญบาท 
เหรียญต่างๆที่เราใช้กันในปัจจุบัน 
และยังมีหน้าที่ดูแลราชพัสดุ 

ดูแลทรัพย์สิน และพระราชทรัพย์ทั้งหมดของ
พระมหากษัตริย์ และพระบรมวงศานุวงศ์ 
รวมถึงการประเมิณราคาที่ดินด้วย




ถ้าเรามาที่นี่ ก็จะมีบอกขั้นตอนการทำเหรียญ
แบบคร่าวๆให้เราเข้าใจพอสังเขป

แต่ถ้าอยากรู้เพิ่มเติม  เดินไปไม่ไกลนัก 
จากพิพิธบางลำพูจะเจอพิพิธภัณฑ์เหรียญค่ะ 


....
กลับมาที่พิพิธบางลำพูก่อนนนน




มาถึงแล้ว ถอดรองเท้าด้านหน้า เดินเข้าไปลงทะเบียน
จากนั้นก็รอเวลาเจ้าหน้าที่ประกาศเรียก 
ที่นี่จะมีเจ้าหน้าที่พานำบรรยาย จึงต้องเข้าเป็นรอบๆ

ระหว่างรอ ก็สามารถรับชมนิทรรศการ
เทอดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้า 
พระบรมราชินีนาถ ( ในรัชกาลที่ 9 ) 

รวมไปถึงประวัติความเป็นมาของเขตพระนคร 
การสร้างป้อม และคูเมืองต่างๆ



พวกเรามาวันธรรมดา คนจะน้อย 
ถือว่าเป็นกรุ๊ปส่วนตัวมากๆ รู้สึก VIP 

ส่วนที่รับชมจะอยู่ชั้น 2 ของอาคาร 
โดยจะแบ่งออกเป็น 2 อาคาร

อาคารแรก เป็นอาคารปูน ซึ่งเป็นอาคารต้อนรับ

เป็นการบรรยายและพาชมเกี่ยวกับ หน้าที่และ
การทำงานของกรมธนารักษ์
ที่มีหน้าที่ดูแลทรัพย์สินอันมีค่าของแผ่นดิน



นี่ก็เป็นแผนผังเมืองโดยสังเขป 


การวัดแผนที่ การประเมิณราคาที่ดินและทรัพย์สิน 
ก็ขึ้นอยู่กับกรมธนารักษ์เช่นกันค่ะ

....

อาคารที่ 2 เป็นอาคารไม้ สีสันบางลำพู



โดยที่นี่ตอนเปิดใหม่ จะมีของบางอย่างให้เราตามหา 
แต่ตอนนี้เขาไม่ค่อยบิ้วตามกิมมิกเปิดตัวแรกเท่าไหร่ 
แต่ยังไงลองมาดูกันนะคะว่าของที่ตามหา
ในสีสันบางลำพูแห่งนี้ คืออะไรกันแน่



แสดงลิเกซักเล็กน้อย



ในนี้ก็จะเป็นการจำลองสถานที่ต่างๆ ในย่านบางลำพู 
ความเก่าแก่ ให้คนรุ่นก่อนได้รำลึก




แต่ก็กลายเป็นความวินเทจให้คนรุ่นใหม่
ได้มาถ่ายรูปกันคูลๆ



บางอย่าง เราก็หาไม่ได้แล้วในปัจจุบัน 
เช่นรถราง ( แต่แว่วมาว่า 
เขาจะเอารถรางกลับมาใช้อีกครั้ง ก็น่าสนใจดีนะคะ )



งานฝีมือต่างๆ จากชุมชนบางลำพู



ร้านทำรองเท้าจากหนังควาย
ซึ่งปัจจุบันร้านนี้ไม่มีแล้ว ไฟไหม้ไปหมดแล้วจ้า
แต่ของบางอย่างก็ถูกนำมารักษาไว้ที่นี่



แวะดื่มชากาแฟกันเบาๆ



^____^



ความคลาสสิค จากกาแฟโบราณ






ร้านทำเครื่องเงินก็มา 😁



ตีแผ่นทองคำเปลวให้ดูกันค่ะ

...

ใช้เวลาเดินทั้งหมดประมาณ 45 นาที



มาที่นี่ นอกจากจะได้รูปสวยๆกลับไปกันแล้ว



ก็ยังได้ความรู้จากน้องวิทยากรนำเที่ยวด้วยนะคะ




ลองมาดูน๊าาาา เปลี่ยนบรรยากาศจากเดินห้าง 
มาแอ่วย่านพระนคร แล้วอาจจะติดใจเหมือนเราก็ได้ 




ดูรวมๆแล้ว มีเสน่ห์ เหลือเกินนนนนน 

ไว้พบกันตอนหน้าค่ะ บ๊ายบายยยย
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ 



ค่าเข้าชม : ฟรี
เวลาทำการ : อังคาร - อาทิตย์ ( 10.00 - 18.00 )
สถานที่ : อยู่ติดกับป้อมพระสุเมรุเลยจ้าาา

มีที่จอดรถ ... ห้องน้ำสะอาด .... 
สำหรับผู้สูงอายุ หรือ ผู้พิการก็มาได้นะคะ ที่นี่มีบริการพิเศษให้ค่ะ

ปล. ไม่ต้องกลัวร้อน เพราะแอร์ทุกห้องเลยจ้าาา