วันพฤหัสบดีที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2559

Aloha Hawaii : Dstar Outing Trip #4



โปรแกรมช่วงบ่ายวันนี้ เราไปต่อกันที่ 
Waikile Outlet ค่ะ

Free time for Shopping ลั่นล้ากันให้เต็มที่
 Coach ลด 50%!!!!!

ไม่มีรูปสถานที่นะ แต่รูปของกินไม่พลาดจ้าาาา


ก่อนจะ shopping ก็เติมพลังแป๊ปป


น่ากินไหมจ๊ะ >////< 


อื่มแล้วก็จับจ่ายใช้สอยตามอัธยาศัย 

สมควรแก่เวลา ก็วิ่งกลับมาที่รถพร้อมถุงใบใหญ่ๆ
คนละไม้คนละมือ ก่อนออกเดินทางต่อค่าาา


ชมวิวกัน

ที่เห็นไกลๆทางขวามือนั้น คือปากปล่องภูเขาไฟ
Diamond Head นะคะ


วันที่เดินเล่นไป Aquarium เดินอีกนิดก็ถึงทางขึ้น 
Diamond Head ละ แต่มันเย็นเกินไปแล้ว 
เลยไม่ได้ไป ก็เห็นกันไกลๆแบบนี้ละกันโนะ


*photo by google *

นี่ไงๆ Diamond Head  สวยเนอะ น่าไปมาก
(แอบเสียดาย อิอิ)

Diamond Head เป็นภูเขาไฟทรงกรวยสูง 560 ฟุต
ปากปล่องภูเขาไฟขนาดยักษ์ 
ที่ผุดขึ้นมากลางเกาะโออาฮู
ดับสนิทแล้ว สามารถขึ้นไปชมวิวได้ค่ะ


 ที่นี่ยังเคยใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธี
บูชายัญมนุษย์ในอดีตด้วยแหละ จึงนับเป็น
สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดแห่งหนึ่งของชาวฮาวายค่


นั่งรถชมวิวไปเรื่อย ที่นี่คือ Punchbowl Crater หรือ 
สุสานทหารพันซ์โบลว์ เป็นเขตแดนปากปล่องภูเขาไฟ 
มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกค่ะ


สุสานแห่งนี้ถูกสร้างขี้นเพื่อเป็นเกียรติ
 และให้รำลึกถึงเหล่าทหารกล้าที่เสียชีวิต
ในสมัยสงครามโลก


มาต่อกันที่ Pali Lookout ค่ะ ที่นี่ร่มรื่นและ
อากาศดีมากๆเลย

ที่นี่เป็นจุดชมวิวริมหน้าผาที่สวยและ
ขึ้นชื่อมากๆของฮาวายค่ะ


ธรรมชาติสุดๆ


แม่ไก่ก็มา นางหวงลูกมากกกก


มากันเป็นทีม


ไปชมวิวกันดีกว่าาา วิวดีว่ามะ >////< 


อ่ะๆ ของจริงค่ะ สวยมากๆเลย

จุดชมวิวนี้เกิดจากการเคลื่อนตัวและไหลทับจาก
ระเบิดภูเขาไฟ Ko'olau ที่ไหลลงสู่พื้นทะเล


สูงระดับ 2000 ฟุต จากพื้นหน้าผา


เฮฮากันซักรูป ก่อนเดินทางต่อ
^__^



ตอนเห็นรูปปั้นนี้คืองงมาก ว่าคืออะไร ?? 
เค้าเป็นใครกัน?? เพราะหุ่นเป็นสี่เหลียม 
แลดูไม่สมส่วนแบบแปลกๆ

หาข้อมูลมาให้หายสงสัยละ เขาผู้นี้คือ
Father Damien หรือ Saint Damien 
เป็นชาวเบลเยี่ยม

ท่านเป็นบาทหลวงที่สละชีวิตดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อน
ที่เกาะ Molokai Hawaii






ผู้ป่วยทั้งหลายถูกย้ายไปอยู่ในนิคมบนเกาะ 
Father Damien ดูแลทุกอย่างให่้ตั้งแต่ที่พักอาศัย 
การรักษาและอื่นๆเป็นเวลา 16 ปี

จนสุดท้ายก็ได้ป่วยเป็นโรคเรื้อน
และเสียชีวิตในเวลาต่อมาด้วยอายุเพียง 49ค่ะ



นี่เป็นศาล สำหรับตัดสินคดี ซึ่งปัจจุบันยังใช้งานอยู่

และมีส่วนของพิพิธภัณฑ์ด้วยค่ะ 
สามารถเข้าชมได้ฟรีนะคะ


สวยงาม


เดินเลาะอาคารนี้ไปทางด้านหน้า
เป็นทางไปพระราชวังอิโอลานิค่ะ



เจอรูปปั้นราชินีอีกแล้วค่ะ :D


เดินเข้ามาเรื่อยก็เจอโบสถ์เก่าๆ 
คิดว่าน่าจะเป็นโบสถ์
ที่บาทหลวงดาเมี่ยนเคยอยู่ค่ะ


ถึงแล้ววว พระราชวังอิโอลานิ
นี่เป็นพระราชวังแห่งเดียว ในสหรัฐอเมริกา 
ซึ่งเป็นที่พักอย่างเป็นทางการในช่วงการปกครอง
ของพระมหากษัตริย์ฮาวาย

รูปปั้นด้านหน้าคือ กษัตริย์คาเมฮาเมฮา ที่ 5 
ท่านเป็นกษัตริย์องค์สุดท้าย
ในราชวงศ์ คาเมฮาเมฮ่า



พระเจ้าคาเมฮาเมฮาที่ 5 ทรงมีรัชทายาท
พระองค์เดียวคือ เจ้าหญิงวิกตอเรีย คามามาลู 
ซึ่งพระนางได้ทรงสิ้นพระชนม์ไปก่อน 

ทำให้พระองค์ไม่ทรงมีรัชทายาท
หลังพระองค์เสด็จสวรรคต
เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 1872
 ขณะมีพระชนมายุได้ 42 พรรษา 

ทำให้สภานิติบัญญัติต้องเลือก
ผู้ที่จะมาเป็นกษัตริย์องค์ต่อไป สภาจึงได้เลือก
พระเจ้าลูนาลิโลให้ครองราชย์ต่อจากพระองค์




พระราชวังอิโอลานิ เป็นที่ประทับของ
พระราชาคาลาคาอัว (Kalākaua) 
กษัตริย์องค์ที่ 7 แห่งฮาวาย

หลังจากที่พระเจ้าลูนาลิโล (กษัตริย์องค์ที่ 6 )
ปกครองได้เพียงปีเดียวก็เกิดอาพาธ
จนสวรรคตในที่สุด พระองค์ไม่มีรัชทายาท

ก็ต้องหาว่าใครจะมาเป็นกษัตริย์องค์ต่อไป
โดยทางสภาจะต้องเลือกระหว่าง
เดวิด คาลาคาอัว กับ 
สมเด็จพระราชินีเอ็มมา นาเอ รูก 
พระมเหสีในพระเจ้าพระเจ้าคาเมฮาเมฮาที่ 4 

จนในที่สุดสภาก็ตัดสินใจเลือกเดวิด คาลาคาอัว
ทำให้เดวิด คาลาคาอัว 
ได้ครองราชย์ต่อจากพระองค์

และได้สร้างพระราชวังหลังนี้ขึ้นมา



หลังจากท่านเสด็จสวรรคตด้วยอาการอาพาธ 
ที่ซานฟรานซิสโก
พระขนิษฐาของพระองค์ก็ขึ้นครองราชสมบัติแทน
คือราชินี ลีลีโอคาลานี แห่งฮาวาย (Liliuokalani)
ก่อนถูกล้มล้างจากอำนาจจากกลุ่มคนผิวขาว


**photo by google**

ราชินีได้ถูกกักขังโดยจำกัดอิสระภาพใน
พระราชวังแห่งนี้เป็นเวลานานนับปี 
สุดท้ายฮาวายได้ถูกรวมให้เป็นมลรัฐหนึ่ง
ของสหรัฐอเมริกา

ถือเป็นการสิ้นสุดการปกครอง
ระบบกษัตริย์ในฮาวาย

ต่อมาอาคารหลังนี้ถูกใช้เป็น
ศูนย์กลางการบริหารสำหรับรัฐบาล
เฉพาะกาลของสาธารณรัฐฮาวาย 

นกระทั่ง ค.ศ. 1969 อาคารหลังนี้ได้รับการบูรณะ 
และเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์แก่สาธารณชน
เมื่อ ค.ศ. 1978


.......

ดูดีมีสาระ เหมือนเรียนประวัติศาสตร์ฮาวายไหมคะ

ฮ่าๆๆๆ เปลี่ยนโหมดดีกว่า

หลังจากเที่ยวสถานที่สำคัญๆ บนเกาะกันไปแล้ว

ก็กลับโรงแรมพักผ่อนตามอัธยาศัยค่ะ




ออกมาเดินเล่นกันซักหน่อย

สัปปะรดนี่เป็นผลไม้เบอร์หนึ่งของฮาวายเลยนะคะ

หวานอร่อยมาก ได้ชิมมานิดนึง >///<


เจอใครเนี่ยยยย นอนอยู่บนทางเท้า

แจ็ก สแปร์โรว์ก็มา


ได้เวลามื้อค่ำแล้วว

มื้อนี้เจอกันที่ Oceanarium Restaurant ค่ะ


Buffet Seafood แหละ ปูใหญ่มากกก อร่อยยย


กินเข้าไป กินเข้าไป


ต่อด้วยของหวาน ฟองดูก็มา 


ท้องอิ่มแล้วก็แยกย้ายกันเดินเล่น ก่อนกลับไปปาร์ตี้ที่ห้องกันค่ะ


ยาวไปยาวไป

Facebook Live ให้อับอายกันไปเลยทีเดียว

( ใครได้ดูบ้าง ฮ่าๆๆๆ )


เละเทะ 4 ตารวด !!!!

ไปนอนดีกว่าาาา พรุ่งนี้จะได้ไปเล่นน้ำกัน

^___^

วันพุธที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2559

Aloha Hawaii : Dstar Outing Trip #3


ALOHA

เช้าวันที่ 3 มิถุนายน 2016

วันนี้โปรแกรมเยอะมากเลยยยย 


สิ่งที่ขาดไม่ได้ของทุกทริปคือ น้ำแอ๊ปเปิ้ล
อืมมม ..... น้ำแอ๊ปเปิ้ลฮาวาย พี่ให้ 7/10 ละกัน เฉยมากกก
T_T

.......

ไปเที่ยวกันดีกว่าาาาา


โปรแกรมเช้าวันนี้ไปกันที่ Pearl Harbor
คุ้นชื่อกันป่ะ 
ที่นี่นับเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของสงครามโลกครั้งที่ 2

สมรภูมิเลือด

เป็นอนุสรณ์สถานเรือรบ USS Arizona หรือ พิพิธภัณฑ์เพิร์ลฮาร์เบอร์
ตั้งอยู่ในอ่าวเพิร์ลฮาร์เบอร์ 
เป็นที่ตั้งฐานทัพหลักของอเมริกาที่สำคัญที่สุดในแปซิฟิค

สถานที่แห่งนี้อยู๋ในการดูแลของกองอุทยานแห่งชาติ 
ร่วมกับกองทัพอเมริกัน


เข้าไปข้างในกันค่ะ

สามารถเข้าไปดูรอบๆได้เลยโดยไม่ต้องมีบัตรนะคะ
แต่ถ้าจะไปล่องเรือ ไปดูสถานที่จริงต้องจองบัตรล่วงหน้าค่ะ


หน้าตาบัตรค่ะ

นี่เป็นบัตรเข้าชม แบ่งออกเป็นรอบๆ
โดยแต่ละรอบ บัตรก็มีจำนวนจำกัดค่ะ ควรจองเข้ามาล่วงหน้า 
หรืออีกวิธี
ก็คือต้องมาจองบัตรตั้งแต่เช้าค่ะ โดยจะเริ่มแจกบัตร
ตั้งแต่ 7 โมงเช้า ส่วนมากคนที่มาเอาบัตรตอนเช้า
ก็จะมากันตั้งแต่ 6 โมงค่ะ ( ของเราจองล่วงหน้ามาค่ะ )

อ่อ บัตรฟรีนะคะ ถ้ามาเลยเวลาก็อดเข้านะคะ


บรรยากาศด้านในค่ะ

พิพิธภัณฑ์นี้ สร้างขึ้นโดยไม่ได้หวังผลกำไรใดๆ นอกจากเพื่อระลึกถึง
เหตุการณ์ในวันนั้น ที่ญี่ปุ่นมาถล่ม Pearl Harbour


ภายในนี้ก็จะแบ่งส่วนการจัดแสดงต่างๆ เช่นโรงภาพยนต์ฉายสารคดี
เครื่องบังคับการจำลองการบิน , เรือดำน้ำ, ร้านขายของที่ระลึก, 
เครื่องบินรบรุ่นต่างๆ เช่น เครื่องบิน Flying Tigers , 
เครื่องบิน Mig Alley, เฮลิคอปเตอร์, หลุมระเบิด, 
ซากเครื่องบิน Japanese A6M2 Zero B11-120 , 
และยังมีอีกหลายลำ

รวมทั้งข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ของเหล่าทหารในกองทัพ
และมูลนิธิ เพื่อรับบริจาคในการบำรุงสถานที่


คนที่มีบัตรก็จะได้รับคู่มือ และ Audio Guide

หรือถ้าเข้ามาแล้ว แต่อยากไป ก็สามารถซื้อตั๋วแยกได้ค่ะ 
(ราคาแพงนิดนึง)

การใช้งาน Audio Guide นั้นไม่ยากค่ะ

เราสนใจในส่วนไหน ก็กดหมายเลขนั้น แล้วฟังเรื่องนั้นได้เลยค่ะ


ตั้งใจกันสุดๆ 

^___^


เข้าไปฟังบรรยายกันก่อนนะคะ ประมาณ 15 นาที
บรรยายดีมาก บางคนน้ำตาซึม แต่บางคน ก็น้ำลายไหล zZZZ

แฮร่

ในส่วนนี้ก็เหมือนคำนำ เวลาเราอ่านหนังสือ พอเราไปเห็นสถานที่จริง
ก็จะเห็นภาพได้ชัดเจนยิ่งขึ้น



ขึ้นเลยกันดีกว่าค่ะ ทหารหล่อจุงงง


เรากำลังนั่งเรือไปชมเรือรบ USS Arizona


เรือรบ USS Arizona เป็นเรือรบที่มีชื่อเสียงมาก

เรือลำนี้ผ่านเรืองราวมากมากมาย ตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 
เป็นทั้งเรือฝึกรบ เรือฝึกฝนกลยุทธทางน้ำ และเป็นเรือคุ้มกัน
ประธานธิบดีวิลสัน ขณะเดินทางกลับสหรัฐอเมริกา


มีการปรับปรุงเพิ่มเติม option อยู่หลายครั้ง

จนกระทั่งช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 วันที่ 7 ธันวาคม 1941 
เวลาประมาณ 8.00น.ทางกองทัพจับสัญาชญานเรด้ารได้ 
ผู้แปลสัญญาณคิดว่าเป็นพวกเดียวกัน
เลยไม่ได้เอะใจอะไร เลยไม่ได้มีการตั้งรับใดๆทั้งสิ้น

กองทัพญี่ปุ่นที่แอบซุมอยู๋ใกล้ๆอ่าวเพิร์ลฮาร์เบิลได้ส่งเครื่องบิน 
Nakajima B5N จำนวน 10 ลำ และ จรวดตอร์ปิโด 
เข้ารุมถล่มเรือ Arizona จนอัปปางลงภายในเวลา 9 นาที 

และทำลายเรือรบขนาดใหญ่ของสหรัฐ 
ทั้งหมด 18 ลำ ภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง
ทำให้เหล่าทหารที่ประจำการทั้งหมด 2,400 คน ต้องเสียชีวิต



นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้อเมริกาเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 ทันที

รวมทั้งเป็นจุดเริ่มต้นของการระเบิดที่ ฮิโรชิม่า ประเทศญี่ปุ่นด้วย

..

อาคารสีขาวนี้ เป็นอาคารใหม่ที่สร้างขึ้นมา
เพื่อให้เราได้ยืนดูเรือดำน้ำ ที่จมอยู่ด้านล่าง 

โดยสร้างคร่อมเรือไว้ และไม่ให้ส่วนใดของอาคารโดนเรือแม้แต่นิดเดียว




อาคารนี้รับคนได้ประมาณ 200 คน

ด้านล่างอาคารก็คือ เรือรบ Arizona ที่อัปปางลง
นี่คือสถานที่เกิดเหตุจริงๆเลยค่ะ



มองลงไปดู ถ้าไม่รู้ประวัติก็นึกว่าเป็นท่อเก่าๆขึ้นสนิมเท่านั้นเอง

เรือรบ Arizona ลำนี้ มีขนาด 29,158 ตัน ยาว 185.3 เมตร 
กว้าง 29.6 เมตร กินน้ำลึก 8.9 เมตร ความเร็วเต็มที่  21 น๊อต
หรือ 39 กม/ชั่วโมง บรรจุทหารได้ 915 นาย

และยังบรรจุปืนใหญ่ขนาดต่างๆ รวมทั้งฐานยิงตอร์ปิโดอีกด้วย



นอกจากนี้ยังมีเรือดำน้ำ เรือรบลำอื่นๆให้เราได้เข้าชมกันด้วยนะคะ
ถ้าสนใจไป ก็กลับฝั่งไปซื้อบัตรก่อนนะคะ


เรือลำใหญ่มาก ไม่ได้ไปค่ะ แค่ถ่ายรูปก็พอแล้ว


กลับฝั่งก่อนนะคะ


ในส่วนนี้ก็เป็นส่วนนิทรรศการ แสดงข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ


แบบเรือจำลอง




โมเดลเรือ USS Arizona ที่เราไปดูมาเมื่อสักครู่ ให้เราได้เห็นภาพนะคะ
ว่าเรือที่จมหน้าตาเป็นยังไง สร้างอาคารคร่อมไว้ยังไง


DJ มาเองค่ะ เย้ยยยย ไม่ใช่ๆ 

ทดลองจับสัญญาณเรด้าร์ค่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ



เช้านี้ได้ความรู้กันมากมายเลย เดี๋ยวไว้มาต่อโปรแกรมช่วงบ่ายนะคะ

^_____^