วันอังคารที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2560

Greece part 3 : Dstar Outing trip


เช้าวันนี้ บนเกาะซานโตรีนี่

เราจะไปล่องเรือรอบเกาะ
กระโดดน้ำเล่นกันค่ะ


เป็นแพคเกจแบบเหมาลำ ไป Hot spring ที่ภูเขาไฟ
อย่ารอช้า ไปล่องเรือกันเลยค่ะ

บริษัทเรืออยู่ตรงข้ามกับที่พักพอดี
นัดแนะเวลาไว้ประมาณ 7.30 am
มีรถมารับพาไปลงเรือ


นี่คือหน้าตาเรือของเราค่ะ 
บนเรือก็จะมีพนักงานคอยบริการให้อยู่ 5-6 คน



unlimited drinks + snacks
อารมณ์ปาร์ตี้เล็กๆบนเรือใบส่วนตัว


ถ่ายรูปกันเพลินๆ
สามารถดูคลิปบรรยากาศบนเรือได้
ตามลิงค์ที่แนบไว้ด้านล่างนะคะ


พักผ่อนตามอัธยาศัย



วิวทิวทรรศรอบเกาะค่ะ 

ภูเขาส่วนใหญ่เป็นหน้าผาชัน ตัดเป็นขั้นๆ
น้ำทะเลสีน้ำเงินเข้ม ตัดโทนกับสีท้องฟ้า
และสีน้ำตาลเข้มของภูเขา


ถึงเวลาลงน้ำแล้วจ้าาาา
น้ำสีน้ำเงินเข้มดูน่ากลัว น้ำเย็น และเค็มมาก


ที่ต่อไปคือ Hot spring
จากลาวา ของภูเขาไฟค่ะ
เป็นเกาะภูเขาไฟ
ชื่อ Nea Kameni ( เนีย คาเมนี )

ภูเขาไฟลูกนี้ เคยระเบิดเมื่อนานมาแล้ว 
ทำให้ดินแดนแยกออกจากกัน กลายเป็นเกาะเล็ก
ฟีร่า ก็เป็นหนึ่งในส่วนของเกาะภูเขาไฟนี้ค่ะ

ดินและหินบริเวณรอบๆจะเป็นสีดำ สีแดง 
และน้ำตาลเข้ม
คือ Black Beach, Red Beach
ปัจจุบันเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวค่ะ

สำหรับชุดที่ใส่มา ควรเป็นสีดำ
เพราะอาจทำให้ชุดคุณเปลี่ยนสีได้ค่ะ

น่าเสียดายที่เราไม่ได้ลงไปตรงนั้น
เพียงแค่ผ่านในระยะไกลๆ
....

แต่ไม่เป็นไร เราได้ไปพอกลาวาจากภูเขาไฟค่ะ




กระโดดลงน้ำปุ๊บ ก็ค่อยๆว่ายเข้าไป
ว่ายเข้าไปลึกพอสมควร หินเยอะและคมมากๆ

ตอนแรกนึกว่าจะเป็นน้ำร้อน
แต่เป็นกระแสน้ำอุ่น เย็น ร้อนเป็นช่วงๆ

ในโซนที่เป็น Hot spring น้ำทะเลจะเป็นสีส้ม
ก็เป็นผลมาจากธาตุกัมมะถันของลาวาจากภูเขาไฟ

เขาบอกว่าดีต่อสุขภาพผิว ก็เอามาพอกตัวพอน่ารัก
สนุกสนานพอสมควร ได้เวลากลับเข้าฝั่งค่ะ


ถ้าอยากแช่บ่อน้ำร้อนที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวจริงๆ
ต้องไปเกาะใกล้ๆกัน
ชื่อเกาะ Pelea Kamini ถ้าจะแช่น้ำที่นี่
ต้องถอดเครื่องประดับออกให้หมด
เพราะมันจะทำปฏิกริยา เปลี่ยนเป็นสีแดง

ความเป็นจริงที่ว่าเป็นบ่อน้ำร้อน
มันก็จะไม่สามารถร้อนได้มาก เหมือนออนเซ็นของญี่ปุ่น

เพราะมันเป็นน้ำร้อนจากภูเขาไฟ
ผสมกับน้ำทะเล ทำให้มันมีอุณหภูมร้อนเย็น อุ่นเป็นช่วงๆ
..........

หลังจากอาบน้ำแต่งตัวใหม่แล้ว
บ่ายนี้พักผ่อนตามอัธยาศัยค่ะ


บางท่านก็นอนพัก หรือปาร์ตี้เล็กที่หน้าห้องพัก


แต่เราจะออกไปเดินเล่นกันค่ะ


เอาภาพมาฝากนะคะ



โดย mission ของเราคือ
พยายามตามหามุมโดมสีน้ำเงิน
แบบในโปสเตอร์ ก็ได้มาตามนี้นะคะ





เดินเล่น ซื้อของฝาก ของที่ระลึกเล็กน้อย
แดดค่อนข้างแรง แต่อากาศไม่ร้อนมาเกินไป


ถ่ายได้ทุกมุม ทุกตรอกไม่มีเหนื่อย



งานเซรามิก สวยงาม มีความปราณีต



คนเยอะพอสมควร ระวังกระเป๋าด้วยนะคะ
การโจรกรรมเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลา



มีความน่ารักมุ้งมิ้ง แต่ราคาไม่มุ้งมิ้งซักอย่างงงง TT


จิบชา กาแฟกันเบาๆ
ถ่ายรูปแบบ Gossip Girls ฮ่าๆๆ


จิบชาเสร็จก็ออกไปเดินเล่น ถ่ายรูปต่อค่ะ


จำได้ว่าทางตรงนี้แคบ และคนเยอะมาก
มีความเบียด และลำบากกว่าจะได้รูปนี้มา 
^_^


ทุ่มกว่าแล้ว ฟ้ายังสว่างอยู่เลย
ได้เวลารับประทานอาหารค่ำแล้วค่ะ


มื้อค่ำของพวกเราค่ะ
รอนาน แต่ก็อร่อยมากกกกก



หน้าตาโค้กของกรีซจ้าา อ่านไม่ออก


กว่าจะได้รับประทาน นอกจากรอจนลืมแล้ว
ถ่ายรูปก็นานพอสมควรค่ะ ฮ่าๆๆ
^__^


หลังจากที่เก็บรูปบรรยากาศอย่างบ้าระห่ำกันทั้งวันแล้ว
เหนื่อยและปวดขากันมาก
จึงสมควรแก่เวลา กลับที่พักไปเก็บกระเป๋า
และพักผ่อนกันได้แล้วค่ะ


น้องเหมียววว



พรุง่นี้เช้าก่อนย้ายเกาะไปมิโคนอส
เราก็จะมาถ่ายรูปกันอีกค่ะ ฮ่าๆๆ


แล้วพบกันนะคะ

ฝากคลิปด้วยนะคะ
https://www.youtube.com/watch?v=taDUpkE3OVU




วันจันทร์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2560

Greece part 2 : Dstar Outing trip

หลังจากที่เราเที่ยวเอเธนส์กันพอสังเขป
ก็ได้เวลาขึ้นเรือไป ซานโตรีนี่กันค่ะ


การเดินทางไปซานโตรีนี่ ไปได้สองวิธี
คือนั่งเครื่องบิน กับ นั่งเรือเฟอรี่ค่ะ

ทั้งนี้ก็ต้องเชคช่วงเวลาด้วยนะคะ
ว่าเกาะเปิดหรือไม่เปิด

...

สายเรือหลักที่จะพาเราข้ามจากเอเธนส์ สู่ซานโตรีนี่
ก็จะมี Sea Jets, Hellenic Seaways, 
Blue star Ferri
สามารถจองผ่านเวบโดยตรง 
หรือผ่านเอเจ้นเรือได้เลย

แต่ละสายเรือก็มีความต่างเรื่องของเวลา
ถ้าเราเลือกแบบ High speed ก็จะถึงเร็วขึ้น
แต่ราคาก็แพงขึ้นค่ะ



เราเดินทางโดยเรือเฟอรี่ Sea Jets
ออกจากที่พักประมาณตี 5 
โดยเราต้องไปขึ้นท่าเรือ Piraeus พีราอุส

ควรเผื่อเวลาล่วงหน้าก่อน 1 ชั่วโมงนะคะ

เพราะหลังจากที่เราจองผ่านหน้าเวบแล้ว
เราจะได้ E-Ticket เพื่อนำมาออก Boarding pass
หรือตั๋วเรือ ที่ท่าเรืออีกครั้งค่ะ

ก็ต้องมองหานิดนึง ว่าเอเจ้นบริษัทเรือตั้งบูธตรงไหน

นี่เป็นหน้าตาตั๋วค่ะ ก็จะระบุชื่อ
พร้อมเลขที่นั่งให้เรียบร้อย


Piraeus - Thira

เมือเรือเทียบท่าแล้ว ก็เอากระเป๋าเข้าเก็บ
ในช่องเก็บกระเป๋าใต้ท้องเรือ


ตามหาที่นั่งค่ะ ก็จะดูยากนิดนึง
บนเรือมีสองชั้น แบ่งเป็นโซนๆค่ะ
โดยแบ่งเป็น VIP, Business, Economy


เท่าที่สังเกตุ มันก็ไม่ได้ต่างกันมาก
นอกจากขนาด และสัมผัสความนุ่มสบายของเบาะ


ภายในเรือมีร้านขายอาหารและเครื่องดื่ม
สามารถนำมาม่ามาขอน้ำร้อนได้นะคะ



ใช้เวลาข้ามเกาะประมาณ 7-8 ชั่วโมง 
เราก็จะว่างมากๆ

......

บริเวณดาดฟ้าเรือค่ะ ลมแรงมากๆเลย


ส่วนใหญ่ก็จะใช้เวลาไปกับการถ่ายรูปเล่น


วิวท้องฟ้า ทะเล และสายลม


พักผ่อน นอนหลับบ้าง


เม้ามอย กินขนมกันบ้าง


เล่นเกมส์กันบ้าง


ในที่สุด ก็ถึงแล้วค่ะ เย่ๆๆ

....

เรือจอดเทียบท่าไม่นานมากนะคะ
ควรเตรียมตัวก่อนเรือจอด
ประมาณ 30 นาทีค่ะ


ก่อนจะขึ้นไปที่ ซานโตรีนี่
เราก็แวะรับประทานอาหารที่ ฟีร่าก่อนค่ะ


ฟีร่า ตั้งอยู่บริเวณริมหน้าผา Caldera
เป็นเมืองหลวงที่ใหญ่ที่สุดบนเกาะ ซานโตรีนี่
จะอยู่ใกล้กับท่าเรือ 
Local bus ทุกคันจะออกจากที่เมืองนี้



เป็นเมืองใหญ่ที่มีนักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะ
มีร้านค้ามากมายให้เราชอปปิ้ง 



รวมไปถึง
วิวสวยๆในการถ่ายรูปค่ะ




จัด Gelato ไปคนละถ้วย อร่อยมากก


อัดเต็มถ้วย รสชาติเข้มข้น



เดินทางต่อค่ะ
ที่ซานโตรีนี่มีหลายหมู่บ้านให้เข้าพัก
มีหมู่บ้าน Oia, Imerovigli
และ Firostefani



ถึงล้าววววววววว

เราพักกันที่บริเวณหมู่บ้าน Oia (เอีย)
ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะ ซานโตรีนี่

ที่นี่เป็นหมู่บ้านที่มีความสงบ เหมาะแก่การพักผ่อน
เอกลักษณ์ของที่นี่ที่ชัดๆก็คือ สถาปัตยกรรม

มีรูปทรงบ้านแบบกรีกโบราณ
และการคุมโทนสี ที่ทาสีขาวทั้งหมด
ตัดกับสีฟ้า และสีน้ำเงิน

นับเป็นความสวยสะดุดตา 
ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ดีทีเดียวเลยค่ะ

...

นี่ค่ะ ที่พักของเราค่ะ
ก็จะกระจายๆกันไป ตามขั้นบันได


โครงสร้างเมืองส่วนใหญ่จะมีลักษณะเป็นขั้นบันได
เป็นตรอกเป็นซอย

เพราะฉะนั้น ก่อนเอากระเป๋าเข้าห้อง
เชคห้องก่อนนะ ว่าถูกต้องไหม
จะได้ไม่เปลืองแรงค่ะ ฮ่าๆๆๆๆ ^___^


เรามากันหลายคน 
ที่พักก็จะมากหน้าหลายแบบมากๆ


บรรยากาศหน้าห้องก็มีความต่างกัน


ห้องที่บีพักออกจากห้อง
ก็มีอ่างจากุชชี่พร้อมแช่เลยค่ะ สุดยอดไปเลย


ส้มตำ ไวน์ขาว ณ ซานโตรีนี่
เพิ่งรู้ว่ามีส้มตำแบบพกพาแล้วนะคะ
สนใจสอบถามหลังไมค์ได้เลยค่ะ


หลังจากพักผ่อนกันพอสมควร
ก็เดินเข้าไปในเมืองดูพระอาทิตย์ตกดินกันดีกว่า


จุดชมพระอาทิตย์ก็จะอยู่ลึกสุดเลยค่ะ
ใช้เวลาเดินจากที่พัก แบบไม่แวะไหนเลย
ก็ประมาณ 15 -20 นาที
ตามความยาวของขา ^^


ระหว่างทางก็จะมีร้านค้ามากมาย
ทั้งร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึก

ค่าครองชีพที่กรีซค่อนข้างสูง ถึงสูงมาก
ต้องใช้จ่ายอย่างประหยัดนะคะ

ผู้คนส่วนใหญ่จะมาจับจองที่นั่งกัน
ตั้งแต่ 6 โมง เพื่อมุมที่ดีที่สุด

โดยพระอาทิตย์จะตกตอนประมาณ 2 ทุ่ม



นอกจากสีขาวฟ้าแล้ว ก็จะมีแซมๆสีเหลือง
สีอิฐแดง สีเขียวบ้าง ให้พอมีสีสันน่ารักๆ


การมาดูพระอาทิตย์ตกที่หมูบ้าน Oia
นับเป็นกิจกรรมยอดฮิตของที่นี่เลยแหละ


รูปอาจไม่สวยเท่าไหร่ แต่ของจริงสวยมากกก

.....


หลังจากชมพระอาทิตย์ตกแล้ว
ก็ได้เวลาอาหารตกถึงท้องแล้วเช่นกันค่ะ

มื้อเย็นของเรา


เก็บตกบรรยากาศยามค่ำคืนเล็กน้อย


บ้านเมืองที่นี่ ก็จะหน้าตาคล้ายๆกัน
ของก็ขายคล้ายๆกัน แต่ก็ไม่เข้าใจ
มาเดินซ้ำๆทำไมตั้งหลายรอบ
ถ่ายรูปมุมเดิมๆ แต่ก็สวยและสนุกมากๆค่ะ

เราจะยังอยู่ที่นี่อีก 1 คืน

พรุ่งนี้เช้าเราจะไปล่องเรือดำน้ำรอบเกาะ
และไปพอกตัวที่ภูเขาไฟกันค่ะ

แล้วพบกันนะคะ