วันศุกร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ทริปใจง่าย : วัดพุทโธสามพราน วัดไร่ขิง

23 ตุลาคม 2557 คือวันปิยะมหาราช 
ก็เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของรัชกาลที่5 ค่ะ

..

วันหยุดดดด เพื่อนๆไปไหนกัน ?? หรือนอนพักผ่อนที่บ้านคะ ^^
..
มาอัพบลอคแบบนี้ ไม่ต้องสงสัยค่ะ 
ออกทริปอีกแล้วว 


เป็นทริปใจง่ายเช่นเคยค่ะ ไม่มีการวางแผน 
รู้แค่ชีพจรลงเท้า กำหนดพิกัดคร่าวๆ แล้วไปเลยค่ะ

ทริปนี้เราไปกันไม่ไกลมาก ไปสามพราน 
ก่อนถึงนครปฐมนิดนึงง .. พิกัดคือวัดพุทโธสามพราน .. 

ประวัติความเป็นมาไม่รู้มาก่อน พอดีแม่เจอเว็บแนะนำ 
เห็นรูปแล้วอยากไป  ตามใจแม่ค่ะ ^___^ 
(ส่วนประวัติ หาเอาเองนะจ๊ะ)
..
เราออกเดินทาง เวลาประมาณ 13.00น ออกสายไปหน่อย 
แต่เราไม่รีบ ก่อนไปเราก็แวะไปวัดแถววัดปากน้ำภาษีเจริญสักหน่อยค่ะ... 
วัดปากน้ำไปบ่อยแล้ว เพิ่งรู้ว่ายังมีวัดที่น่าสนใจอยู่รอบๆคะ 

ตรงทางแยกเข้าวัด ถ้าแยกซ้ายข้ามสะพานไป
จะเป็นวัดปากน้ำภาษีเจริญ แต่ครั้งนี้ขอเลี้ยวขวาเข้าซอยเล็กๆค่ะ 
ขับเข้าซอยไปเรื่อยๆ หาแม่น้ำให้เจอ 
เดี๋ยวก็เจอวัดค่ะ



นี่คือวัดพระพุทธเจ้า 28 พระองค์ เป็นวัดเล็กๆ 
คนไม่พลุกพล่าน สะอาดค่ะ 


วัดนี้ไม่มีประตูวัด มีแต่โบสถ์ 
และสามารถเดินไปวัดอื่นๆได้สะดวก
เช่นวัดปากน้ำ หรือวัดวรามาตยภัณฑ-
สาราราม (วัดขุนจันทร์ )ก็ได้ค่ะ

หลังจากเราสักการะและรับน้ำมนต์
เพื่อความเป็นสิริมงคลแล้ว
..
เราก็เดิมข้ามสะพานข้ามแม่น้ำ
ไปวัดขุนจันทร์กันค่ะ


..


ที่น่าสนใจของวัดนี้คือองค์พระต่างๆ 
สร้างใหญ่ค่ะ ดึงดูดได้ดีพอสมควร


สักการะเสร็จก็ข้ามกลับมาเอารถ ขับไปจุดหมายหลักของเรากันเลยยย 

..

ออกจากวัดประมาณ  13.30 น. 
(ทำเวลาสุดๆไหว้สองวัดภายในไม่ถึงครึ่งชั่วโมง)

.. 

ออกจากวัดตรงไปตามเส้นเพชรเกษม 
ตรงอย่างเดียว  
พอเริ่มเห็นป้ายนครปฐม 
ก็เปิด google map นำทางค่ะ 
พาเข้าทางลัดตลอดดดด --" 
จะว่าดีก็ดีแต่ทางมันก็ลึกจนน่ากลัว
สำหรับผู้หญิงสามคน ... 

โผล่ออกมาถนนใหญ่ 
ก็เจอวัดเลยค่ะ เห็นตึกมังกรเด่นเป็นสง่า



วัดค่อนข้างเงียบ บรรยากาศวัดดูวังเวงพิกล 
แต่ธรรมชาติดีค่ะ ขับเข้าไป
 มีบ่อล้างล้อรถด้วยยย

ลงจากรถก็เข้าไปเดินชมสวนค่ะ



เป็นสวนสำหรับผู้มาปฏิบัติธรรม
 ไว้เดินจงกลมค่ะ ร่มรื่นมาก 

แต่ส่วนตัวรู้สึกอึดอัดๆแปลกๆ .. 
เดินสำรวจไปเรื่อยๆ ที่พื้นจะเป็นรอยเท้าคน


เป็นแบบนี้ตลอดทาง 
ก็แปลกดีค่ะ คนเดินจงกลมน่าจะ
ได้เห็นชื่อบนพื้น 
และส่งบุญต่อไปยังเจ้าของชื่อ
(คิดเองค่ะ555) 2 in 1

ทุกพื้นที่ในวัด มีชื่อคนทำบุญหมดเลยค่ะ
ทั้งที่เป็นเท้าพร้อมชื่อ  มือพร้อมชื่อก็มีค่ะ

 เพิ่งสังเกตุว่าสองข้างทางของทางเดิน
 คือสุสานค่ะ!!! 
คือมีทั้งที่เก็บเถ้ากระดูก และศาลต่างๆ 
มิน่าถึงรู้สึกแปลกๆ ..

คิดว่าถ้าเดินตอนกลางคืน น่าจะหลอนมาก 
ด้วยต้นไม้ที่เป็นไทรและเถาวัลย์
ปกคลุมอย่างหนาทึบ 
และของตกแต่งสองข้างทาง 
แต่คิดว่าน่าจะทำให้ผู้ปฏิบัติธรรม
ได้ปลงสังเวชค่ะ

...

เปลี่ยนบรรยากาศมั่ง ลงไปด้านใต้อาคาร 
จะเป็นคล้ายๆพิพิธภัณฑ์ 


มีแม่ชีต้อนรับเป็นอย่างดีค่ะ ก่อนลงจะเจอนกยูงรำแพนหางตัวใหญ่มากกกกก 


ไปยืนใกล้ๆแอบน่ากลัวอ่ะ



..


นี่เป็นหุ่นขี้ผึ้ง 8รัชกาล



ส่วนนี่เป็นน้ำบัวบานค่ะ เป็นน้ำดื่ม 
แต่เราไม่สามารถเปิดดื่มได้ทันทีค่ะ


ขั้นแรก มาตั้งจิตอธิษฐานกับตู้นี้ก่อน 
(คล้ายตู้เซียมซีตามวัดเลย) 
หลังจากอธิษฐาน ก็หยอดไป 5 บาท 
รอจนไฟวิ่งเสร็จ

ได้"เนกขัมมะ" แม่ชีบอกว่าให้หาเวลามาบวช ..
กดน้ำออกมา ก็ยังดื่มไม่ได้ค่ะ 


แม่ชีจะสวดให้เราก่อน และให้เราอธิษฐานตามป้ายอีกรอบ 
จากนั้นก็ทั้งดื่มและล้างหน้าได้เลยค่ะ 

แม่ชีบอกว่า รสชาติน้ำแต่ละช่องไม่เหมือนกัน 
บ้างก็ฝ่านๆ บ้างก็ขม บ้างก็หวาน 
(ความเชื่อส่วนบุคคลค่ะ)

ก็แปลกดี ถือเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจค่ะ ^^ หลังจากนั้น 
เราก็ขึ้นไปชั้นบนสุดเลย 
ซึ่งบนนี้จะเปิดเฉพาะวันพระ 
และวันสำคัญเท่านั้น....วันนี้โชคดีค่ะเปิด!!


งามมากเลย.. ขึ้นไปไม่มีใครเลย
มีแค่เราสามคน 

มีแม่ชีมาต้อนรับอย่างดี 
พร้อมแนะนำส่วนต่างๆ 



ฟ้าครึ้ม และร้องดังมาก เราไปเดินเวียน
ใต้ฐานพระสามรอบ 


เมื่อเริ่มเวียน ฝนก็เริ่มตก ลมพัดแรง ...
 พอครบสามรอบ 
ลมพัดระฆังดังพอดีและฝนหยุด.... 
( ส่วนตัวแอบคิดว่าแปลกดีแฮะ!! 
หรือบังเอิญหว่า ) 



แล้วแม่ชีก็พาเข้าไปในโบสถ์ สวยมากกกกก



...

หลังจากชื่นชมบรรยากาศด้านบนพอสมควร ได้เวลาไปตึกมังกรแล้วววว


..

ภายในตึกก็เดินได้แค่ชั้นล่าง 
ข้างบนห้ามขึ้นค่ะ 
ต้องมีบัตรแตะประตู ถึงจะเปิดเข้าไปได้ TT

มาเดินด้านนอกดีกว่า ข้างในมืดๆ มีหีบศพพระด้วย รู้สึกอึดอัดแปลกๆ


อากาศดีค่ะวันนี้ ลมดี ไม่มีแดด 
ฝนตกพอเย็นๆ 

...


แตะอธิษฐานเล็บมังกรค่ะ



นี่เป็นทำนาย 12 ราศีค่ะ



บรรยากาศสงบ ร่มรื่น อากาศดี 
แต่แอบน่ากลัวด้วยรูปปั้นมั้งคะ


เดินต่อไปที่ถ้ำพญาเต่า
ทางเข้าเหมือนเรากำลัง
ขึ้นยาน UFO ปากเต่าพับปิดได้อ่ะ



ในถ้ำมืดค่ะ แต่ก็ไม่มีอะไร 
ออกจากถ้ำเจอ ร.5  
สักการะค่ะ 


(วันของท่านพอดีด้วย) 


17.00 แล้ววว 
ไปไหนต่อดี...??

จะไปไหนได้เวลานี้!!!

ขากลับผ่านวัดไร่ขิง เข้าไปสะหน่อยย

ทำบุญกันค่ะ^_^



เจอคุณลุงขอทานเงินล้านด้วย 
มีคนถ่ายรูปคู่ด้วย 
ว่าจะไปถ่ายด้วย แต่ตอนนั้นรีบและ
ในตัวไม่มีเงินเลย 
คงไม่ดี เสียดายจุงงง 

(ลุงที่เอาเงินทำทานถวายวัดเป็นล้าน
ที่ออกข่าวค่ะ) 

แม่เอาผ้าไปถวาย ห่มพระประธานค่ะ
องค์ใหญ่ปีนไม่ได้สูงไป เลยห่มองค์รองแทน
มีคนมาถ่ายรูปด้วย ^^

..
อนุโมทนาบุญนะคะ

ใครอยากหาที่ปฏิบัติธรรม หรือหาที่นั่งสมาธิเงียบๆ
วัดพุทโธสามพราน ก็เหมาะดีนะคะ ลองไปดูค่ะ


แล้วพบกันใหม่ทริปหน้าค่ะ ^__^












วันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2557

พระพิฆเนศ พระตรีมูรติ หน้าลานCTW


หลังจากทำธุระในห้าง Central World เสร็จก็ประมาณ 20.30 น. 
เลยออกมาสักการะพระพิฆเนศและพระตรีมูรติที่หน้าห้างค่ะ 
....
พระพิฆเนศ เป็นเทพเจ้าที่มีผู้คนนับถือมาก ท่านจะคอยช่วยขจัดอุปสรรค
และประทานพรให้ผู้สักการะบูชาประสบความสำเร็จ
พระพิฆเนศ ยังมีบทบาทสำคัญมากกับวงการด้านศิลปวิทยา 
ทุกครั้งก่อนจะเริ่มงานแสดงใดๆจะต้องมีการสักการะพระพิฆเนศ 
เพื่อให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี
*ภาพประกิอบจาก Google*

วิธีการสักการะพระพิฆเนศ
ธูป 9 ดอก  / เทียน 1 เล่ม  / พวงมาลัยดอกดาวเรือง 1พวง / 
และอื่นๆ เช่น นม น้ำแดง ดอกบัว กำยาน กล้วย อ้อย น้ำมะพร้าว เป็นต้น
..
ติดกับพระพิฆเนศ คือพระตรีมูรติ

ปัจจุบันคนส่วนใหญ่นิยมไปวันพฤหัส เวลา 21.30น. 
ซึ่งเชื่อกันว่า เป็นช่วงเวลามงคลที่เทพเจ้าจะเสด็จลงมาประทับ 
เพื่อรับฟังและประทานพร คนที่ต้องการสมหวังในความรัก
จึงพากันมาอธิษฐานขอพรเรื่องความรักอย่างล้นหลามม
( นี่คนเราประสบปัญหาหัวใจกันมากขนาดนี้เลยแฮะ !! )
...
พวกเราก็ไปซื้อของตรงหน้าลานค่ะ สักการะพระพิฆเนศก่อน
แล้วก็รอเวลา 21.30 เพื่อสักการะพระตรีมูรติค่ะ
หลังจากรอเวลา 21.30 น. พอดีเป๊ะ !! คือคนมาจากไหนไม่รู้ เต็มไปหมด
>/////<
วันนี้เราไม่ได้มาขอความรักแบบคนส่วนมากค่ะ
มาคุยงาน เราก็ต้องขอพรให้การงานของเรารุ่งเรืองเฟื่องฟู
งานคือเงิน เงินคืองาน บันดาลสุข
มีความสุข เดี๋ยวเรื่องดีๆก็เข้ามาค่ะ อิอิ
...
จุดธุปเสร็จ ขอแนะนำว่า ยกแขนชูธูปขึ้นสูงๆนะคะ 
ทั้งควันทั้งเศษธูป ทำร้ายคนตัวเตี้ยมากค่ะ TT
( ส่วนตัวคิดว่าไหว้เวลาไหน ก็เหมือนกัน ทุกอย่างอยู่ที่ใจ
พอดีเพื่อนอยากทำทุกอย่างให้ถูกต้อง ก็เลยตามนั้นค่ะ ^^ )

...
                                 อันที่จริงแล้ว ท่านมีอำนาจมากกว่าการประทานความรักนะคะ
พระตรีมูรติ เป็นเทพสูงสุดของศาสนาพารหมณ์ 
เป็นเทพที่รวมร่างกันถึง 3 องค์ นั่นคือ พระพรหม พระวิษณุ  และพระศิวะ 
ด้วยพลังของท่านทั้ง3องค์รวมกัน เราสามารถขอพรได้ทุกสิ่งที่หวัง 
ไม่ใช่แค่ปัญหาหัวใจค่ะ
เพราะแบบนี้ ใครที่ตั้งใจจริง คิดดี ทำดี พูดดี 
ท่านก็พร้อมจะช่วยเราอย่างเต็มที่ บางทีอาจได้มากกว่าที่คาดคิด
วิธีการสักการะพระตรีมูรติ
ธูปแดง 9 ดอก / เทียนแดง 1 คู่ / ดอกกุหลาบอีก 9 ดอก .. เทียนแดงให้ปักติดกันเป็นคู่นะคะ  
....
จากคนใกล้ชิด สนิทสนม คุ้นเคยหลายคน ได้เคยบอกว่า 
" ผิดหวังในความรักซ้ำซาก .... หมดหวังที่จะพบรักจริงๆ ... 
บางคนก็ตั้งใจมาขอ บางคนก็ผ่านมาและบ่นพึมพำกับท่าน
ด้วยความทุกข์สาหัส เพียงไม่นาน ก็พบคนที่ใช่ 
หลายคนแต่งงานมีทายาทเรียบร้อยแล้วจ้าาา "
** โปรดใช้วิจารณญานในการอ่าน.. ** 
..



รู้หรือไม่?? พระตรีมูรติ ที่เราเข้าใจว่าเป็นท่าน และกราบไหว้พร้อมระลึกถึงท่าน...
จริงๆแล้ว ไม่ใช่พระตรีมูรติค่ะ!!!!
แต่เป็น พระปัญจมุขี หรือ พระศิวะ 5 เศียร
*ภาพประกอบจาก Google*


น่าจะเป็นความเข้าใจผิดตอนสร้างค่ะ
เพราะตามตำรา และคัมภีร์ พระตรีมูรติที่ถูกต้องจะต้องมี 3 เศียรเท่านั้นค่ะ

...

แต่ไม่ว่าท่านจะเป็นใคร ถ้าเราบูชาแล้วสบายใจ ก็เป็นเรื่องที่ดีค่ะ

^__^

...

ปล. ใครอยากไปสักการะ บริเวณหน้าลานมีขายของบูชานะคะ 

พระพิฆเนศ 60 บาท พระตรีมูรติ(พระศิวะ5เศียร) 80 บาท












วันศุกร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2557

แบกเป้เที่ยวโตเกียว ญี่ปุ่น 5วัน4คืน part 6 : Day 4 - 5 ( Final Part )


มาต่อกันวันที่ 4 ค่ะ 
ขอเล่ารวดเดียวจนกลับไทยเลยนะคะ



วันที่ 4 ตุลาคม 2014

หลังจากที่ตื่นเช้ามาแล้วทุกวัน 
กับร่างกายที่เหนื่อยล้า 
วันนี้ขอนอนยาวๆหน่อยค่ะ 


วันนี้ออกจากที่พัก 10โมง ไปอาซากุสะ
วันนี้มีเป้าหมายคือการซื้อของฝากชิ้นใหญ่

นั่นคือ Baby car กับ Car Seat 
ญาติเพื่อนฝากซื้อค่ะ 

ขอแนะนำว่า ถ้าไม่ได้มากับทัวร์
อย่ารับฝากของชิ้นใหญ่นะคะ 

มันจะทำให้ชีวิตยากขึ้นจริงๆค่ะ 
แต่ก็ได้ประสบการ์ณอีกแบบ 5555


เช้านี้เราทานอาหารเช้าตรงข้ามสถานี 
Shin-Okubo 
ร้านที่เรารู้จักกันดี Yoshinoya ค่ะ


รสชาติเดียวกัน เพราะเป็นเฟรนไชน์
อิ่มแล้ว ขึ้นรถที่ Shin-Okubo 
ไปเปลี่ยนรถไฟที่ Ueno 

ก็เลยลงไปเดินซะหน่อยค่ะ

ไปที่ตึก Yamashiroya


ฟิกเกอร์ตรึมมมม !!! 


ก่อนที่จะรู้ว่านี่คือตึก Yamashiroya จริงๆเราโดนตู้บิดตุ๊กตาดูดเข้าไปนะคะ 5555 
มารู้ตัวตอนเดินออกมาแล้ว >\\\<

ใครชอบบิดตุ๊กตา มาญี่ปุ่นคงได้ตกเป็น
เหยื่อเหมือนเราแน่ๆ 555

ไปเที่ยวข้างในตึกกันค่ะ ข้างในมี 7 ชั้น  
แต่เค้าให้ขึ้นได้แค่6 

ชั้น 6 จะเป็นจัดงานของติ่งตัวการ์ตูนไร
ไม่รู้จักอ่ะเลย
เดินลงมาดูชั้นอื่นๆแทน


ของเล่นเยอะมากกกกก





 Bear Brick ก็มีค่ะ


ใครชอบฟิกเกอร์ ก็อย่าพลาดที่นี่นะคะ ฟินน

ออกจากตึกก็ไปเดินในห้าง OIOI ค่ะ
(จริงๆไปหาห้องน้ำเข้าค่ะ เลยไม่รุ้ในห้าง
มีอ่ะไร 555 รู้แต่มีร้าน Vanguard  )


บรรยากาศหน้าห้างค่ะ 
เดินไปขึ้นรถไฟไปอาซากุสะดีกว่าาาา

ขึ้นจาก Ueno นั่งสาย Tokyo Metro 
Ginza Line ไปลง Asakusa  170 เยน  
ใช้เวลา 5นาทีค่ะ


ถึงแล้วค่ะ ออกมาก็แน่ใจได้เลยว่าถูกต้อง เอกลักษณ์เขาชัดเจนค่ะ 555


นั่งรถม้าเที่ยวรอบเมืองค่ะ 
คล้ายๆลำปางบ้านเรา^^


ออกจากสถานีเดินไปทางขวามือนิดนึง
ก็ถึงเลยจ้าา

นี่้เรียกว่า ประตูสายฟ้า
 ( Kaminarimon Gate )
 เป็นประตูทางเข้าวัดค่ะ



ตรงนี้เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมถ่ายรูปมากค่ะ คนเยอะมาก 

ข้างใต้โคมแดงเป็นลายมังกร 
สวยงามมากค่ะ

นี่ค่ะรูปใต้โคม (รูปเก่าเล่าใหม่) 



เนื่องจากคนเยอะมากเลยขอเดินเข้าไปข้างในเลยดีกว่า
ก่อนจะเข้าไปในวัดเซนโซจิ 
ก็ต้องผ่านถนนนากามิเสะ



สองข้างทางก็จะขายของฝาก 
และของทานเล่นค่ะ

ถึงแล้ววว



ก่อนทำการสักการะ 
ต้องชำระมือให้สะอาดค่ะ  
เป็นธรรมเนียมปฏิบัติ 
น้ำนี่ถือเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ ดื่มได้ค่ะ



ซื้อธูป 10เยนค่ะ

ชอบมากเลย วิธีการจุดธูปและเทียนที่นี่

ธูปก็จิ้มลงไปเลย


ส่วนเทียนก็กดปุ่ม 
ไม่ต้องบังลมให้หงุดหงิด


ไหว้เสร็จก็เอาไปปัก
 แล้วกวักควันเข้าหาตัวเองค่ะ


หลังจากเข้าไปสักการะภายในแล้ว
ก็เดินเล่นรอบวัดสะหน่อยย


Tokyo Skytree ใช่มั๊ยนั่น!! 
ไม่ได้ไปอ่ะถ่ายรูปซะหน่อยก็ยังดี 

>\\\<

ที่วัดนี้ใกล้สวนสนุกโบราณค่ะ


ลองมาเดินเล่นได้ค่ะ 
มีการแสดงศิลปะริมถนนด้วย
เพิ่งดูคลิปก่อนมา เลยอินนิดนึง


กลับเข้ามาในวัด 
เจอข้าวพันเบคอนน่ากินมากก


ราดซอสบารบีคิว ไม้นี้ 150เยนค่ะ


..
ต่อด้วยไอติม Soft cream 250 เยน

คนต่อแถวซื้อขนมปังยาวจัง

ไอติมไม่มีคนเลยแฮะ



ไปที่อื่นต่อกันมั่งดีกว่า

Next station Akihabara

นั่ง Asakusa  สายGinza 
ไปลง Ueno 180เยน ไปต่อสาย
 JR Yamanote ลง Akihabara  
140เยน 15นาที

ออกจากสถานี ก็หาอะไรกินสักหน่อย
มื้อนี้จัดซูชิค่ะ

ร้านอยู่หน้าสถานีเลย






ราคาก็ตามสีจานที่ทานเลย 
เขามีราคาบอกค่ะ


กินเสร็จแล้ว ก็เดินหาฟิกเกอร์ค่ะ


แถวนี้ใกล้ Gundam Cafe'ค่ะ


เดินออกมาเจอตลาดฟิกเกอร์มือ2
ของดีราคาไม่แพง แต่ก็ไม่ได้ซื้อค่ะ



โอตาคุน่าจะชอบ


..

เดินตามหาร้านฟิกเกอร์ที่ขาย
 One piece ค่ะ
( จริงๆมีขาย และมีให้หนีบตามตู้เยอะมาก)

KITOBUKIYA 

หาร้านไม่เจอให้คนญี่ปุ่นพามาค่ะ


ที่นี่ก็มีโมเดลเยอะมาก 
มีอุปกรณ์ตกแต่งด้วยค่ะ
เผื่อใครอยากทาสีเอง



ไปต่อที่ร้าน2 ค่ะ

Hobby Figure ร้านนี้ค่อนข้างใหญ่
และราคาไม่แพงค่ะ



ร้านนี้มีหลายชั้น และห้ามถ่ายรูปค่ะ

ก็ถ่ายมาเหมือนกัน 

เพราะไม่ทราบค่ะว่าห้าม


ฟิกเกอร์ร้านนี้เริ่มที่ 100เยน!!
บอกแล้วถูกจริง

..

ก่อนจะไปตามหา Baby Car

เราแวบไป  Yodabashi Akiba  ก่อนค่ะ


อยู่ตรงสถานีรถไฟ Akibahara เลย


ที่นี่มีเกือบทุกอย่าง
แวะไปซื้อหูฟังก่อนที่ชั้น3แล้วไปชั้น5

ดูฟิกเกอร์!!


มีตู้บิดมาหลอกล่ออีกแล้ว


ของเล่นทุกเพศทุกวัย


อยากได้จัง





ได้เวลาตามล่ารถเข็นเด็กแล้วค่ะ

เราหากันทุกวัน ทุกที่ที่เจอของเด็กเล็ก

แต่ไม่มีรุ่นที่ต้องการ

คราวนี้ไปตามล่ากันที่ร้าน 

Arkachan Honpro

อยู่ชั้น5 ของห้าง KiT


นั่งรถจาก Akihabara สาย JR Chuo ลง Kinshicho Station 160 เยน 6นาที

ถึงร้านแล้ว


มีรุ่นที่ต้องการ แต่ไม่มี
 Tax refundเลย จะไปดู Babies R US


ที่นี่ไม่มี Babies R Us

ลงไปถามประชาสัมพันธ์ได้แผนที่มาค่ะ

ต้องไปอีกห้างนึง Olinas 
ตอนนี้เราอยู่ตรงสี่แดงสี่เหลี่ยมผืนผ้า
ช่องใหญ่ๆอ่ะๆ


รีบเดินให้ไว หกโมงกว่าแล้ว 
ห้างปิดสองทุ่ม

ที่นี่ฟ้ามืดเร็วค่ะ

เจอแล้วว


คือมันใหญ่มาก อารมณ์ CTW
ร้านอยู่หนายยย


อยู่ชั้น3ฝั่ง Olinas Mall


เจอแล้ววว มีทุกแบบที่ต้องการ

พนักงานพูดอังกฤษไม่ค่อยได้ แต่ก็
สื่อสารรู้เรื่องค่ะ สรุปว่า 
Tax Refund ไม่ได้

ทำได้เฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้า


....
คุณพระ!!! กล่องนึง 11โล กล่องนึง 7โล!
ข้างในเป็น baby car กับ car seat 
ยี่ห้อ combic รุ่นล่าสุด


จะขนกลับไงเนี่ย!!!
จากตรงนี้เอากลับที่พัก 

แล้วพรุ่งนี้ไปสนามบิน
กระเป๋าอีก เวลาจะทันมะ 
เครื่องออก10.30!!!
 ...

 

เมื่อไม่มีทางเลือก ก็ต้องแบกกันไป
 


ก็ไม่มีไรมาก แค่เอาลงจากห้าง
ข้ามถนนเดินไปตามถนน ถือขึ้นบันได
เอาเข้ารถไฟฟ้า

ขึ้นผิดสถานีด้วย ถือขึ้น ถือลง~ 
ทั้งบันไดปกติ และบันไดเลื่อน

เหนื่อยโฮก!!!

วิ่งเข้ารถไฟไปแล้ว1กล่อง
 อีกกล่องมาไม่ทัน 55555

ต้องออกมารออีกสถานี 
รถไฟที่นี่ประตูมันไม่เด้งเหมือน BTS อ่ะ



เอากล่องไปดันไว้แล้วนะ 
มันหนีบเลย ก็เลยต้องตามมาขบวนต่อไป

นั่งไปลง Ueno เราตกลงกันว่า
จะฝากไว้ที่ Coin Locker ที่ Ueno


ตู้ล็อตเกอร์ที่นี่มีหลายขนาดมาก
มีทั้งฝากด้วยบัตร Suica 
และแบบเหรียญ

แต่ตู้ที่เราจะฝากมันรับแต่เหรียญ 100เยน

ตู้นี้800เยน ตอนฝากก็ใส่ไป 800 
จะเอาออกก็อีก800ค่ะ


หลับฝันดีในตู้นะ พรุ่งนี้จะมารับ

ถ่ายรูปสถานที่เก็บไว้ค่ะ

ขนาดถ่ายแล้ว ตอนมาเอายังหาไม่เจอ

คือมันมีหลายโซน แล้วกว้างมากค่ะ

..

เรายังไม่ยอมกลับค่ะ ไปต่อที่Shinjuku
3ทุ่มกว่าแล้ว

ไปหาอะไรกินก่อน หิวมาก

มื้อสุดท้ายของทริปนี้ ที่ญี่ปุ่น กินดีๆหน่อย




ร้านนี้ เติมข้าว เติมน้ำชา ไม่อั้นค่ะ


มาแล้วววน่ากินมั๊ยคะ



หลังจากอิ่มท้อง เราก็ไปเดินต่อ

ไปดูว่าผู้คนในวันเสาร์ที่
ชินจุกุเขาเป็นยังไง



ส่วนมากเดินตัวเซนะ 5555
มีHost เต็มถนนเลย

Host คือเพื่อนเที่ยวค่ะ มีทั้งหญิงชาย

ส่วนมากเป็นผู้ชาย

...

ไปเดินตึกเพนกวิ้นต่ออ

ชอปปิ้งของฝาก แต่ซื้อน้อยอ่ะ 
เพราะคิดว่าจะไปซื้อที่ Duty Fee

แล้วแถวยาวมาก

ที่นี่มีทุกอย่างเลย ขนม

เครื่องสำอางค์เสื้อผ้า

มีหลายชั้น ห้องลับก็เยอะจังเลย 

ของแบรนเนมก็มี 
แต่ต้องหาหน่อยนะคะ
 มันอยู่ชั้น 4 ในซอกหลืบ เข้าไปนี่
ทั้ง LV , COACH ตรึม!!

..
เที่ยงคืนแล้ว รถไฟหมด เดินกลับ!

จากชินจุกุเดินกลับได้ค่ะ


Smoking Area ที่นี่จะไม่เดินสูบบุหรี่

จะมีจุดให้สูบโดยเฉพาะ และตู้กดบุหรี่
ก็หาได้ง่ายๆ เพราะคนที่นี่ทำงานเครียด

เขาเลยมองว่าบุหรี่ช่วยผ่อนคลายได้

ผู้หญิงสูบกันเยอะจัง



ว่าแล้วก็เดินกลับที่พักจัดกระเป๋าดีกว่า

จัดเสร็จตีสอง ตื่นตี5!

...

วันที่ 5 ตุลาคม 2014

วันกลับบ้านค่ะ เราตื่นตอนตี5ครึ่ง 
รีบผลัดกันอาบน้ำ เตรียมตัว

มีมาม่าคนละถ้วยเป็นมือเช้า

ออกจากที่พักตอนเกือบ7โมง


เสียดายฝนตกพายุเข้า

ของพะรุงพะรังเลยถ่ายไม่สะดวกอ่ะ 


.. 

เดินทางจากShin-okubo ไปUeno
เอา Big item!

ค่ะ หาไม่เจอ!!!

วิ่งกันไปมาเป็นชั่วโมง นี่ยืนเฝ้าของ

ร้องไห้เบบยย กลัวหลงกับทุกคน

กลัวตกเครื่อง เดี๋ยวไม่มีตังค์ซื้อตั๋วกลับ

...

พอเจอเราก็รีบหอบข้าวของตากฝนไปขึ้น

Keisei Ueno คือต้องออกจากUenoก่อนค่ะ

ไม่ได้ถ่ายรูปไม่ทันจริงๆ

..

ตอนแรกตั้งใจจะนั่ง Limited Express

แต่เวลาไม่ทันเลยนั่งSkyliner

2400 เยน ถึง9.30 พอดี เร็วสุดแล้ว!

ใช้เวลา1ชั่วโมงค่ะ


เอาเก็บให้เรียบร้อย


ตรวจโบกี้และที่นั่งด้วยค่ะ

เดี๋ยวไปนั่งที่คนอื่นเค้า


บนรถไฟมีห้องน้ำนะจ๊ะ

หลังจากนั่งเสร็จเราก็หลับคนละงีบ

..

ถึงแล้วก็รีบวิ่งหาป้าย
 International Airport

พอเจอก็หาAir Asia ไม่เจอ

สรุปเค้าเตอร์ N นะคะ 
จะอยู่เกือบด้านนอกสนามบิน
..

เข้าไปถึงเค้าเตอร์ปิดแล้วจ้า!!

งานงอก กลับบ้านไงเนี่ย

ก็เลยคุยกับเขา คือเราสานไป
ประมาณ6นาที เขาก็ประสานไง

มีคนมาไม่ทันเหมือนกันค่ะ



สรุปได้กลับบ้านค่ะ!


เชคอิน เรียบร้อย 

ต้องขอบคุณพี่คนนี้มาก สวยและใจดี

พาวิ่งโหลดกระเป๋า พาเข้าด่านตรวจ
ที่พวกกัปตันเข้ากัน

พาเข้าด่านตรวจคนเข้าเมือง 

และพาวิ่งเข้าเกทด้วย


มาถึง Gate ใจก็อยากซื้อของฝาก

ถ้าไม่มีกลับไปก็ยังไงอยู่

ดูแถวแล้วน่าจะทัน... รีบวิ่งขึ้นไปอย่างไว

ถึงร้านคว้าไรได้ก็คว้าค่ะ 

ต่อแถวจ่ายตังค์  รีบวิ่งลงมา

ทันพอดี!! หอบแฮ่กๆๆ


ได้ของฝากมา ก็แบ่งๆกันคะ

มาด้วยกันก็ต้องมีของฝากกลับไปทุกคน

...


บะบายโตเกียว 
จนกว่าเราจะพบกันใหม่

...

อยากให้เห็นสภาพของทั้งหมดที่ต้อง

ขนมาขึ้นเครื่องกลับค่ะ

ไม่มีรถเข็นลากมานะคะ ใบต่อใบค่ะ!!!



...

ทริปนี้ pocket money 15,000 บาท
แลกได้ 50,000กว่าเยน
 (exchange .30) 
แต่ตอนแลกเงินเยนได้ราคาดี
เลยได้เยอะกว่าปกติ

เหลือ
ประมาน 3000กว่าเยนค่ะ
(รวมค่ารถ 4000+820+1000+2100)
(ค่าบัตรโดเรม่อน 1000เยน)
(ค่าชอปปิ้ง ค่าเล่นเกม ค่าอาหาร)

ค่าตั๋ว 13,000 Air Asia X

ค่าที่พัก คนละ 3400 เยน

^_____^

* ค่าอาหารที่นี่ 400-950เยน*

*ขึ้นบันไดเลื่อนชิดซ้าย ถ้ารีบวิ่งเลนส์ขวา*

*ไม่เสียงดัง บนรถไฟ*

* ข้ามถนนดูไฟ ไฟแดงหยุด เขียวข้าม*

*ข้ามทางม้าลายเท้านั้น*

*แยกขยะก่อนทิ้ง*

*สูบบุหรี่ในที่สูบเท่านั้น*

ชอบค่ะ แม้ว่าจะดึกขนาดไหน 
รถไม่มี คนไม่มีแต่ทุกคนปฏิบัติตาม
สัญญานไฟ รถจอดหลังทางม้าลายทุกคัน

เมาไม่ขับ ใส่สูทก็นอนริมถนนได้

รถไฟหมด กลับบ้านไม่ทัน ก็ต้องริมทางค่ะ

เพราะค่าแทกซี่โหดมาก

เมาแล้วขับ เจอปรับเป็นล้าน!
..

ขอบคุณที่ติดตามค่ะ