วันที่ 4 ตุลาคม 2014
หลังจากที่ตื่นเช้ามาแล้วทุกวัน
กับร่างกายที่เหนื่อยล้า
วันนี้ขอนอนยาวๆหน่อยค่ะ
วันนี้ออกจากที่พัก 10โมง ไปอาซากุสะ
วันนี้มีเป้าหมายคือการซื้อของฝากชิ้นใหญ่
นั่นคือ Baby car กับ Car Seat
ญาติเพื่อนฝากซื้อค่ะ
ขอแนะนำว่า ถ้าไม่ได้มากับทัวร์
อย่ารับฝากของชิ้นใหญ่นะคะ
มันจะทำให้ชีวิตยากขึ้นจริงๆค่ะ
แต่ก็ได้ประสบการ์ณอีกแบบ 5555
เช้านี้เราทานอาหารเช้าตรงข้ามสถานี
Shin-Okubo
ร้านที่เรารู้จักกันดี Yoshinoya ค่ะ
รสชาติเดียวกัน เพราะเป็นเฟรนไชน์
อิ่มแล้ว ขึ้นรถที่ Shin-Okubo
ไปเปลี่ยนรถไฟที่ Ueno
ก็เลยลงไปเดินซะหน่อยค่ะ
ไปที่ตึก Yamashiroya
ฟิกเกอร์ตรึมมมม !!!
ก่อนที่จะรู้ว่านี่คือตึก Yamashiroya จริงๆเราโดนตู้บิดตุ๊กตาดูดเข้าไปนะคะ 5555
มารู้ตัวตอนเดินออกมาแล้ว >\\\<
ใครชอบบิดตุ๊กตา มาญี่ปุ่นคงได้ตกเป็น
เหยื่อเหมือนเราแน่ๆ 555
ไปเที่ยวข้างในตึกกันค่ะ ข้างในมี 7 ชั้น
แต่เค้าให้ขึ้นได้แค่6
ชั้น 6 จะเป็นจัดงานของติ่งตัวการ์ตูนไร
ไม่รู้จักอ่ะเลย
เดินลงมาดูชั้นอื่นๆแทน
ของเล่นเยอะมากกกกก
Bear Brick ก็มีค่ะ
ใครชอบฟิกเกอร์ ก็อย่าพลาดที่นี่นะคะ ฟินน
ออกจากตึกก็ไปเดินในห้าง OIOI ค่ะ
(จริงๆไปหาห้องน้ำเข้าค่ะ เลยไม่รุ้ในห้าง
มีอ่ะไร 555 รู้แต่มีร้าน Vanguard )
บรรยากาศหน้าห้างค่ะ
เดินไปขึ้นรถไฟไปอาซากุสะดีกว่าาาา
ขึ้นจาก Ueno นั่งสาย Tokyo Metro
Ginza Line ไปลง Asakusa 170 เยน
ใช้เวลา 5นาทีค่ะ
ถึงแล้วค่ะ ออกมาก็แน่ใจได้เลยว่าถูกต้อง เอกลักษณ์เขาชัดเจนค่ะ 555
นั่งรถม้าเที่ยวรอบเมืองค่ะ
คล้ายๆลำปางบ้านเรา^^
ออกจากสถานีเดินไปทางขวามือนิดนึง
ก็ถึงเลยจ้าา
นี่้เรียกว่า ประตูสายฟ้า
( Kaminarimon Gate )
เป็นประตูทางเข้าวัดค่ะ
ตรงนี้เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมถ่ายรูปมากค่ะ คนเยอะมาก
ข้างใต้โคมแดงเป็นลายมังกร
สวยงามมากค่ะ
นี่ค่ะรูปใต้โคม (รูปเก่าเล่าใหม่)
เนื่องจากคนเยอะมากเลยขอเดินเข้าไปข้างในเลยดีกว่า
ก่อนจะเข้าไปในวัดเซนโซจิ
ก็ต้องผ่านถนนนากามิเสะ
สองข้างทางก็จะขายของฝาก
และของทานเล่นค่ะ
ถึงแล้ววว
ก่อนทำการสักการะ
ต้องชำระมือให้สะอาดค่ะ
เป็นธรรมเนียมปฏิบัติ
น้ำนี่ถือเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ ดื่มได้ค่ะ
ซื้อธูป 10เยนค่ะ
ชอบมากเลย วิธีการจุดธูปและเทียนที่นี่
ธูปก็จิ้มลงไปเลย
ส่วนเทียนก็กดปุ่ม
ไม่ต้องบังลมให้หงุดหงิด
ไหว้เสร็จก็เอาไปปัก
แล้วกวักควันเข้าหาตัวเองค่ะ
หลังจากเข้าไปสักการะภายในแล้ว
ก็เดินเล่นรอบวัดสะหน่อยย
Tokyo Skytree ใช่มั๊ยนั่น!!
ไม่ได้ไปอ่ะถ่ายรูปซะหน่อยก็ยังดี
>\\\<
ที่วัดนี้ใกล้สวนสนุกโบราณค่ะ
ลองมาเดินเล่นได้ค่ะ
มีการแสดงศิลปะริมถนนด้วย
เพิ่งดูคลิปก่อนมา เลยอินนิดนึง
กลับเข้ามาในวัด
เจอข้าวพันเบคอนน่ากินมากก
ราดซอสบารบีคิว ไม้นี้ 150เยนค่ะ
..
ต่อด้วยไอติม Soft cream 250 เยน
คนต่อแถวซื้อขนมปังยาวจัง
ไอติมไม่มีคนเลยแฮะ
ไปที่อื่นต่อกันมั่งดีกว่า
Next station Akihabara
นั่ง Asakusa สายGinza
ไปลง Ueno 180เยน ไปต่อสาย
JR Yamanote ลง Akihabara
140เยน 15นาที
ออกจากสถานี ก็หาอะไรกินสักหน่อย
มื้อนี้จัดซูชิค่ะ
ร้านอยู่หน้าสถานีเลย
ราคาก็ตามสีจานที่ทานเลย
เขามีราคาบอกค่ะ
กินเสร็จแล้ว ก็เดินหาฟิกเกอร์ค่ะ
เดินออกมาเจอตลาดฟิกเกอร์มือ2
ของดีราคาไม่แพง แต่ก็ไม่ได้ซื้อค่ะ
โอตาคุน่าจะชอบ
เดินตามหาร้านฟิกเกอร์ที่ขาย
One piece ค่ะ
( จริงๆมีขาย และมีให้หนีบตามตู้เยอะมาก)
KITOBUKIYA
หาร้านไม่เจอให้คนญี่ปุ่นพามาค่ะ
มีอุปกรณ์ตกแต่งด้วยค่ะ
เผื่อใครอยากทาสีเอง
ไปต่อที่ร้าน2 ค่ะ
Hobby Figure ร้านนี้ค่อนข้างใหญ่
และราคาไม่แพงค่ะ
ร้านนี้มีหลายชั้น และห้ามถ่ายรูปค่ะ
ก็ถ่ายมาเหมือนกัน
เพราะไม่ทราบค่ะว่าห้าม
ฟิกเกอร์ร้านนี้เริ่มที่ 100เยน!!
บอกแล้วถูกจริง
ก่อนจะไปตามหา Baby Car
เราแวบไป Yodabashi Akiba ก่อนค่ะ
อยู่ตรงสถานีรถไฟ Akibahara เลย
ที่นี่มีเกือบทุกอย่าง
แวะไปซื้อหูฟังก่อนที่ชั้น3แล้วไปชั้น5
ดูฟิกเกอร์!!
มีตู้บิดมาหลอกล่ออีกแล้ว
ของเล่นทุกเพศทุกวัย
อยากได้จัง
ได้เวลาตามล่ารถเข็นเด็กแล้วค่ะ
เราหากันทุกวัน ทุกที่ที่เจอของเด็กเล็ก
แต่ไม่มีรุ่นที่ต้องการ
คราวนี้ไปตามล่ากันที่ร้าน
Arkachan Honpro
อยู่ชั้น5 ของห้าง KiT
นั่งรถจาก Akihabara สาย JR Chuo ลง Kinshicho Station 160 เยน 6นาที
ถึงร้านแล้ว
มีรุ่นที่ต้องการ แต่ไม่มี
Tax refundเลย จะไปดู Babies R US
ที่นี่ไม่มี Babies R Us
ลงไปถามประชาสัมพันธ์ได้แผนที่มาค่ะ
ต้องไปอีกห้างนึง Olinas
ตอนนี้เราอยู่ตรงสี่แดงสี่เหลี่ยมผืนผ้า
ช่องใหญ่ๆอ่ะๆ
รีบเดินให้ไว หกโมงกว่าแล้ว
ห้างปิดสองทุ่ม
ที่นี่ฟ้ามืดเร็วค่ะ
เจอแล้วว
คือมันใหญ่มาก อารมณ์ CTW
ร้านอยู่หนายยย
อยู่ชั้น3ฝั่ง Olinas Mall
เจอแล้ววว มีทุกแบบที่ต้องการ
พนักงานพูดอังกฤษไม่ค่อยได้ แต่ก็
สื่อสารรู้เรื่องค่ะ สรุปว่า
Tax Refund ไม่ได้
ทำได้เฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้า
คุณพระ!!! กล่องนึง 11โล กล่องนึง 7โล!
ข้างในเป็น baby car กับ car seat
ยี่ห้อ combic รุ่นล่าสุด
จะขนกลับไงเนี่ย!!!
จากตรงนี้เอากลับที่พัก
แล้วพรุ่งนี้ไปสนามบิน
กระเป๋าอีก เวลาจะทันมะ
เครื่องออก10.30!!!
...
เมื่อไม่มีทางเลือก ก็ต้องแบกกันไป
ก็ไม่มีไรมาก แค่เอาลงจากห้าง
ข้ามถนนเดินไปตามถนน ถือขึ้นบันได
เอาเข้ารถไฟฟ้า
ขึ้นผิดสถานีด้วย ถือขึ้น ถือลง~
ทั้งบันไดปกติ และบันไดเลื่อน
เหนื่อยโฮก!!!
วิ่งเข้ารถไฟไปแล้ว1กล่อง
อีกกล่องมาไม่ทัน 55555
ต้องออกมารออีกสถานี
รถไฟที่นี่ประตูมันไม่เด้งเหมือน BTS อ่ะ
เอากล่องไปดันไว้แล้วนะ
มันหนีบเลย ก็เลยต้องตามมาขบวนต่อไป
นั่งไปลง Ueno เราตกลงกันว่า
จะฝากไว้ที่ Coin Locker ที่ Ueno
ตู้ล็อตเกอร์ที่นี่มีหลายขนาดมาก
มีทั้งฝากด้วยบัตร Suica
และแบบเหรียญ
แต่ตู้ที่เราจะฝากมันรับแต่เหรียญ 100เยน
ตู้นี้800เยน ตอนฝากก็ใส่ไป 800
จะเอาออกก็อีก800ค่ะ
หลับฝันดีในตู้นะ พรุ่งนี้จะมารับ
ถ่ายรูปสถานที่เก็บไว้ค่ะ
ขนาดถ่ายแล้ว ตอนมาเอายังหาไม่เจอ
คือมันมีหลายโซน แล้วกว้างมากค่ะ
..
เรายังไม่ยอมกลับค่ะ ไปต่อที่Shinjuku
3ทุ่มกว่าแล้ว
ไปหาอะไรกินก่อน หิวมาก
มื้อสุดท้ายของทริปนี้ ที่ญี่ปุ่น กินดีๆหน่อย
ร้านนี้ เติมข้าว เติมน้ำชา ไม่อั้นค่ะ
มาแล้วววน่ากินมั๊ยคะ
ไปดูว่าผู้คนในวันเสาร์ที่
ชินจุกุเขาเป็นยังไง
ส่วนมากเดินตัวเซนะ 5555
มีHost เต็มถนนเลย
Host คือเพื่อนเที่ยวค่ะ มีทั้งหญิงชาย
ส่วนมากเป็นผู้ชาย
...
ไปเดินตึกเพนกวิ้นต่ออ
ชอปปิ้งของฝาก แต่ซื้อน้อยอ่ะ
เพราะคิดว่าจะไปซื้อที่ Duty Fee
แล้วแถวยาวมาก
ที่นี่มีทุกอย่างเลย ขนม
เครื่องสำอางค์เสื้อผ้า
มีหลายชั้น ห้องลับก็เยอะจังเลย
ของแบรนเนมก็มี
แต่ต้องหาหน่อยนะคะ
มันอยู่ชั้น 4 ในซอกหลืบ เข้าไปนี่
ทั้ง LV , COACH ตรึม!!
..
เที่ยงคืนแล้ว รถไฟหมด เดินกลับ!
จากชินจุกุเดินกลับได้ค่ะ
Smoking Area ที่นี่จะไม่เดินสูบบุหรี่
จะมีจุดให้สูบโดยเฉพาะ และตู้กดบุหรี่
ก็หาได้ง่ายๆ เพราะคนที่นี่ทำงานเครียด
เขาเลยมองว่าบุหรี่ช่วยผ่อนคลายได้
ผู้หญิงสูบกันเยอะจัง
ว่าแล้วก็เดินกลับที่พักจัดกระเป๋าดีกว่า
จัดเสร็จตีสอง ตื่นตี5!
...
วันที่ 5 ตุลาคม 2014
วันกลับบ้านค่ะ เราตื่นตอนตี5ครึ่ง
รีบผลัดกันอาบน้ำ เตรียมตัว
มีมาม่าคนละถ้วยเป็นมือเช้า
ออกจากที่พักตอนเกือบ7โมง
เสียดายฝนตกพายุเข้า
ของพะรุงพะรังเลยถ่ายไม่สะดวกอ่ะ
เดินทางจากShin-okubo ไปUeno
เอา Big item!
ค่ะ หาไม่เจอ!!!
วิ่งกันไปมาเป็นชั่วโมง นี่ยืนเฝ้าของ
ร้องไห้เบบยย กลัวหลงกับทุกคน
กลัวตกเครื่อง เดี๋ยวไม่มีตังค์ซื้อตั๋วกลับ
...
พอเจอเราก็รีบหอบข้าวของตากฝนไปขึ้น
Keisei Ueno คือต้องออกจากUenoก่อนค่ะ
ไม่ได้ถ่ายรูปไม่ทันจริงๆ
..
ตอนแรกตั้งใจจะนั่ง Limited Express
แต่เวลาไม่ทันเลยนั่งSkyliner
2400 เยน ถึง9.30 พอดี เร็วสุดแล้ว!
ใช้เวลา1ชั่วโมงค่ะ
เอาเก็บให้เรียบร้อย
ตรวจโบกี้และที่นั่งด้วยค่ะ
เดี๋ยวไปนั่งที่คนอื่นเค้า
บนรถไฟมีห้องน้ำนะจ๊ะ
หลังจากนั่งเสร็จเราก็หลับคนละงีบ
..
ถึงแล้วก็รีบวิ่งหาป้าย
International Airport
พอเจอก็หาAir Asia ไม่เจอ
สรุปเค้าเตอร์ N นะคะ
จะอยู่เกือบด้านนอกสนามบิน
..
เข้าไปถึงเค้าเตอร์ปิดแล้วจ้า!!
งานงอก กลับบ้านไงเนี่ย
ก็เลยคุยกับเขา คือเราสานไป
ประมาณ6นาที เขาก็ประสานไง
มีคนมาไม่ทันเหมือนกันค่ะ
สรุปได้กลับบ้านค่ะ!
เชคอิน เรียบร้อย
ต้องขอบคุณพี่คนนี้มาก สวยและใจดี
พาวิ่งโหลดกระเป๋า พาเข้าด่านตรวจ
ที่พวกกัปตันเข้ากัน
พาเข้าด่านตรวจคนเข้าเมือง
และพาวิ่งเข้าเกทด้วย
มาถึง Gate ใจก็อยากซื้อของฝาก
ถ้าไม่มีกลับไปก็ยังไงอยู่
ดูแถวแล้วน่าจะทัน... รีบวิ่งขึ้นไปอย่างไว
ถึงร้านคว้าไรได้ก็คว้าค่ะ
ต่อแถวจ่ายตังค์ รีบวิ่งลงมา
ทันพอดี!! หอบแฮ่กๆๆ
ได้ของฝากมา ก็แบ่งๆกันคะ
มาด้วยกันก็ต้องมีของฝากกลับไปทุกคน
...
บะบายโตเกียว
จนกว่าเราจะพบกันใหม่
...
อยากให้เห็นสภาพของทั้งหมดที่ต้อง
ขนมาขึ้นเครื่องกลับค่ะ
ไม่มีรถเข็นลากมานะคะ ใบต่อใบค่ะ!!!
...
ทริปนี้ pocket money 15,000 บาท
แลกได้ 50,000กว่าเยน
(exchange .30)
แต่ตอนแลกเงินเยนได้ราคาดี
เลยได้เยอะกว่าปกติ
เหลือ
ประมาน 3000กว่าเยนค่ะ
(รวมค่ารถ 4000+820+1000+2100)
(ค่าบัตรโดเรม่อน 1000เยน)
(ค่าชอปปิ้ง ค่าเล่นเกม ค่าอาหาร)
ค่าตั๋ว 13,000 Air Asia X
ค่าที่พัก คนละ 3400 เยน
^_____^
* ค่าอาหารที่นี่ 400-950เยน*
*ขึ้นบันไดเลื่อนชิดซ้าย ถ้ารีบวิ่งเลนส์ขวา*
*ไม่เสียงดัง บนรถไฟ*
* ข้ามถนนดูไฟ ไฟแดงหยุด เขียวข้าม*
*ข้ามทางม้าลายเท้านั้น*
*แยกขยะก่อนทิ้ง*
*สูบบุหรี่ในที่สูบเท่านั้น*
ชอบค่ะ แม้ว่าจะดึกขนาดไหน
รถไม่มี คนไม่มีแต่ทุกคนปฏิบัติตาม
สัญญานไฟ รถจอดหลังทางม้าลายทุกคัน
เมาไม่ขับ ใส่สูทก็นอนริมถนนได้
รถไฟหมด กลับบ้านไม่ทัน ก็ต้องริมทางค่ะ
เพราะค่าแทกซี่โหดมาก
เมาแล้วขับ เจอปรับเป็นล้าน!
..
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น