วันอังคารที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2557

แบกเป้เที่ยวโตเกียว ญี่ปุ่น 5วัน4คืน part 2 : Day One

สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้ได้ฤกษ์งามยามดีมารีวิวทริปญี่ปุ่นแล้วค่ะ
ทริปนี้ เดินเยอะมาก เหมาะสำหรับขาลุยเท่านั้นค่ะ ยังไงก็มาติดตามไปพร้อมๆกันนะคะ

วันแรก ( 1 ตุลาคม 2014 ) : สนามบินดอนเมือง - โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

ทริปนี้เราไปด้วยสายการบิน XJ600 ( Air Asia X ) check in สามทุ่ม เครื่องออก ตี1ค่ะ


สามารถปริ้น หรือแคปหน้าจอ booking ไปยื่นที่เค้าเตอร์ได้เลยค่ะ หลังจากโหลดกระเป๋าเขาก็จะติดเทปสีเขียวตรงซิป  แล้วก็เชคอินรับ boarding pass.

หลังจากเชคอินเรียบร้อย ก็เข้าไปเดินรอเวลาที่ duty fee แล้วไปรอขึ้นเครื่องที่ Gate 22ค่ะ

แนะนำว่าควรทานอาหารก่อนเข้า Gate นะคะ  เพราะของข้างในแพงมากค่ะ


...

ได้เวลาขึ้นเครื่องแล้วค่ะ


ที่นั่งเล็กไปหน่อย แต่ก็ไม่แย่ค่ะกับราคา 5555


อาหารเมนูละ 180 บาท น้ำเปล่าขวดละ 40บาท  น้ำอัดลม 60บาท

...

เดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง ไปถึงนาริตะ 10.15น.เป๊ะ!! (เวลาญี่ปุ่น เร็วกว่าไทย2ชั่วโมง)

ปวดคอ ปวดตัวสุดๆค่ะ 5555

อย่าลืมกรอกเอกสารเข้าประเทศให้เรียบร้อยก่อนลงเครื่องนะคะ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปยืนกรอกค่ะ

ที่ต้องกรอกก็เป็นชื่อสกุล อาชีพ วันเดือนปีเกิด แล้วก็ที่พักในญี่ปุ่นค่ะ


...

ลงจากเครื่องแล้วค่ะ อากาศเย็นเพราะฝนตกค่ะ เดินมาขึ้นรถบัสเพื่อต่อเข้าสนามบิน

...

หลังจากทำพิธีตรวจคนเข้าเมือง และรับกระเป๋าแล้ว ก็ได้เวลาเริ่มต้นชีวิตในญี่ปุ่นกันเลยค่ะ!!

....

เริ่มจาก.. ไปซื้อตั๋วรถไฟที่ไหน ?? 

เราตกลงกันว่าทริปนี้จะใช้ suica card เพื่อความสะดวกค่ะ



เดินหาอยู่นาน ไม่เจอ เลยไปถามคนไทยด้วยกัน เขาก็หาไม่เจอค่ะ

รู้แต่ว่าซื้อได้จากเครื่องอัตโนมัติ

เดินมั่วๆ เจอแล้วค่ะ เป็นตู้หน้าตาแบบนี้ พบเจอได้ทุกสถานีรถไฟค่ะ




เติมไปครั้งแรก 4000 เยน มัดจำบัตร 500 เยน เหลือเงินในบัตร 3500 เยนค่ะ

วิธีเติมก็ไม่ยาก เลือกภาษาก่อนค่ะ 
English >> New Ticket >> ¥4000 เสียบแบ้งค์ลงไปในช่องที่ไฟกระพริบ รอรับบัตรพร้อมเงินทอนค่ะ ถ้าต้องการใบเสร็จก็กด receipt ค่ะ


ได้บัตรมาแล้ว ก็หาสถานีต่อเลย Keisei Limited Express ปลายทางของเราคือ Nippori


สถานีหาไม่ยาก มองตามป้ายเลยค่ะ
keisei limited express (local)

รถไฟมาแล้ววว



บรรยากาศภายในรถไฟค่ะ

ใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่ง จะถึง Nippori 1035เยนค่ะ ...

เราหลับไปตื่นนึง ไม่รู้อยู่ไหน ฟังแต่ Nippori คนในรถก็พูดNippori ดูป้ายก็Nippori เข้าใจว่าถึงแล้วแน่นอนค่ะ!!

ลงจากรถไฟจะไปต่อสายJR Yamanote หิวข้าวจัง  แวะหาอะไรกินก่อนละกัน~...

  

มื้อแรกประเดิมอย่างหรู ชื่อร้านจำไม่ได้ค่ะ ด้วยความมึนและหิว สั่งกันแบบงงๆ  

นี่น่ากินมั๊ยคะ จานนี้ 850เยน ค่ะ


นี่เป็นสภาพห้องทานอาหารค่ะ  มีห้องสำหรับสูบบุหรี่กับไม่สูบค่ะ นี่ห้องไม่สูบบุหรี่ค่ะ


ศัพท์ที่ได้จากร้านนี่คือ
บูตะ= หมู , โทริ = ไก่ , กิว = เนื้อ
อิคุระเดสก๊ะ= ราคาเท่าไหร่
อาริงะโตะโกไซมัส = ขอบคุณค่ะ

...

ท้องอิ่มแล้ว.. ออกเดินทางตามหา 
JR Yamanote  หาไม่เจอ!!! กรี๊ดดดดลงผิดป้าย!! ยังไม่ถึง Nippori เลย  แล้วทำไมป้ายมันคือ Nippori!??


อยู่ไหนไม่รู้ รู้แต่ชอบตึกนี้ Romantic Slot Slot Slot!!! 555

เดอนไปถามนายสถานีให้แผนที่ละเอียดกว่าเดิมมา สรุปเราต้องขึ้น JR Chuo แทนค่ะก็ว่านั่งมาทำไมแค่550เยน!?? จากพันกว่าเยน

ขึ้นไปสถานีก็เชคชื่อสถานีอีกครั้งที่เสาเลย

เมื่อมั่นใจแล้ว ก็ขึ้นเลยค่ะ ยิงยาวไปลงShinjuku station แล้วต่อสาย JR Yamanote ไปลง shin-okubo 

ถึงแล้ววว นี่ค่ะรูปหน้าสถานี shin-okubo ข้ามถนนมา เดินเข้าซอยไปสุดซอยก็ถึงที่พักแลวค่ะ


...
ถึงที่พักละ เปิดตู้จดหมายเอากุญแจ แล้วก็ขึ้นห้องพักเลย 

ระบบความปลอดภัยก็ดีนะ เค้าจะให้กุญแจมาสองดอก ดอกแรกไขเพื่อเปิดประตูเข้าด้านใน อีกดอกไขประตูห้องค่ะ



นี่ค่ะ หน้าห้องพัก ออกลิฟท์มาก็เจอเลย


สภาพในห้องพักไม่ต่างจากในรูปที่โฆษณาค่ะสะอาด มีของใช้พร้อมเลย ห้องนี้2286 ต่อคืน ชำระผ่านบัตรเครดิตก่อนเดินทางมีexchange rate ก้สรุปว่าค่าที่พักสำหรับ 4คืน 10,200บาทค่ะ


จองห้องผ่าน Airbnb ค่ะ  โหลดมาได้เลยค่ะมีที่พักเกือบทุกประเทศให้เลือกค่ะ

หน้าที่พักมี Family mart ค่ะ กลางซอยมี7-11 ค่อนข้างสะดวกค่ะ

เราได้เช่า pocket wifi ตกวันละ 500เยน
จริงๆตอนนี้สามารถไปรับ free wifi ได้ที่สนามบินหรือ Bic Camera ได้นะคะ สำหรับนักท่องเที่ยวเท่านั้นค่ะ แต่ไม่ได้ไปเอา เพราะเช่าไว้แล้ว
...

พักก่อนนะคะ ติดตาม Part 3 เร็วๆนี้ค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น