วันอาทิตย์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2561

อาสามาเที่ยว : อีสาน กัมพูชา Ep.1

อรุณสวัสดิ์ เช้านี้ที่โคราชค่ะ
วันนี้ก็จะเป็นการเริ่มทริปอย่างเป็นทางการ

มาติดตามกันนะคะ ว่าพวกเราจะไปทำอะไรกันบ้าง

ปล. มีคลิปให้ชมท้ายบทความค่ะ



ด้วยทางที่พักมีบริการจักรยาน ให้เราปั่นเล่นรอบเมือง
ชมบรรยากาศยามเช้า แต่ความไม่สมดุล 
เขาทำจักรยานมาไม่ได้มาตราฐานเอาสะเลย 

ขาไม่ถึงอ่าาาา เปลี่ยนกี่คันก็ไม่ถึง ไม่ขี่แล้วก็ได้


เช้าแรกที่โคราช ใส่บาตรพระเป็นสิริมงคลกันหน่อยค่า


หลังจากนั้นก็ไปเดินเล่นชมรอบเมืองกัน


อันนี้เป็น ลำน้ำ ที่ไหลลงสู่แม่น้ำมูล 
โดยแม่น้ำมูลเปรียบเสมือนเส้นเลือดที่สำคัญของชาวอีสานค่ะ


สมควรแก่เวลา กลับมาทานอาหารเช้า 
และเริ่มโปรแกรมจริงๆกันเถอะ


ที่แรกที่เราจะไปคือ อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย


โดยมีน้องนักศึกษา2คน ที่มาฝึกงาน 
เป็นผู้พาชมและแนะนำสถานที่นะคะ น่ารักมากๆเลย



อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย 
หรือที่คนส่วนใหญ่เรียกกันว่า ปราสาทหินพิมาย 

เป็นพุทธสถาน นิกายมหายานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย  


โดยสันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าชัยวรมัน 
ในช่วงศตวรรษที่16-17 




โดยสันนิษฐานว่าสร้างขึ้นเพื่อเป็นทางเชื่อมระหว่างโลกและสวรรค์ 
เพราะมีลักษณะโครงสร้างเหมือนเขา พระสุเมรุ    


จากนั้นก็ไปพิพิธภัณฑ์พิมาย 
ซึ่งที่นี่จะเก็บรักษาของโบราณวัตถุที่ขุดพบได้ทั้งหมด






 โดยพวก หน้าบัน ทับหน้า ทับหลัง หรือองค์พระ ที่ตั้งในสถานที่จริงๆ
ที่เราไปเห็นจะเป็นของจำลองเกือบทั้งหมด 







ถ้าอยากเห็นของจริง ต้องมาชมกันที่พิพิธภัณฑ์ค่ะ



จากนั้นเราก็ไปวัดเดิม อ.พิมาย จ.นครราชสีมา
 เพื่อสักการะหลวงพ่อดำ หลวงพ่อแดง







ภายในวัดนี้ยังมีโรงเทียน 
ทำให้เราได้เห็นขั้นตอนการแกะสลักเทียนอย่างปราณีต 


โดยเริ่มจากจากแกะโฟมเป็นแบบขึ้นมาก่อน 



ส่วนลายก็ทำบลอค แล้วมาค่อยๆประกบลงบนแบบ
โดยใช้เหล็กร้อนเป็นตัวประสาน
อันนี้เขาทำเพื่อใช้ในการแห่เทียน และประกวดกันค่ะ


ก็ขอให้ชนะ ได้รางวัลมา สมกับความตั้งใจนะคะ 



สมควรแก่เวลา ไปลุยบ้านคุณป้า ที่ชุมชนเดิม อ.พิมาย
คุณลุงคุณป้าทำหมี่พิมายทานกันค่ะ



โดยเหล่าคุณลุงคุณป้าต้อนรับพวกเราเป็นอย่างดี 
และให้สอนพวกเราตั้งแต่การทำเส้น ตากเส้น และลงมือผัดหมี่ด้วยค่ะ


 ผัดหมี่พิมาย จะคล้ายๆกับผัดไทย แต่อร่อยกว่า นุ่มกว่า 
โดยวิธีการทำที่ต่างกันเล็กน้อย ทำให้รสขาติซึมเข้าถึงเส้น 
อยากให้ลองได้ชิมจริงๆค่ะ 

นอกจากนี้ลุงๆป้าๆ ยังทำส้มตำ ยำหมี่พิมาย 
และอาหารอื่นๆให้เราได้ทานกันอีกค่ะ เรียกได้ว่าอิ่มอร่อยสุดๆเลยจ้าาาา 



ท้องอิ่มแล้ว ได้เวลาออกเดินทางกันต่อค่ะ

ที่เรามาถึงคือ ปราสาทบ้านปรางค์ ตรงนี้คืออโรคยาสถาน 
มีหน้าที่เป็นเหมือนสถานพยาบาล หรือโรงพยาบาลในสมัยโบราณค่ะ 





พอเรามาถึงชาวชุมชนบ้านปรางค์ก็ออกมาต้อนรับเป็นอย่างดี 
โดยมีการทำของที่ระลึกมาติดให้ด้วยค่ะ 


หลังจากชมปราสาทบ้านปรางค์เสร็จแล้ว ก็ไปที่ชุมชมบ้านปรางค์ 
โดยชาวบ้านก็ให้การต้อนรับเป็นอย่างดีมากๆ 

ทำอาหารให้เต็มเลย (คือพวกเราเพิ่งกินมาอย่างจัดเต็ม
จากชุมชนบ้านเดิม เลยไม่สามารถทานอะไรกันได้มากมาย 
แต่ก็พยายามกันเต็มที่ค่ะ 55555)





ชุมชนบ้านปรางค์ จัดแสดงผลงานการทอผ้าไหมให้พวกเราดูกัน 
โดยพาชมตั้งแต่สถานที่เลี้ยงหนอน ตัวใหม 
เรียกได้ว่าเห็นตั้งแต่ต้นจนจบเลยค่ะ









อีกทั้งยังให้เราได้ลงมือทำเอง 
เป็นครั้งแรกเลยนะคะ ที่ได้เอาไหมออกจากตัวไหม 
เอาออกด้วยวิธีการต้ม แล้วอุปกรณ์เขาก็จะนำมาไยไหมออกมาเองค่ะ






และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียของ ชาวบ้านก็นำตัวไหม ที่ไม่มีไหมแล้ว 
มารับประทานเป็นของทานเล่นกันค่ะ 
ส่วนตัวเรานั้น ขอบายเมนูนี้จ้าาาา

ลายทอผ้าไหมของแต่ละชุมชนและหมู่บ้านก็มีความแตกต่างกันไปค่ะ





อันนี้เป็นผลงานของคุณยาย 
คุณยายสุดาภูมิใจนำเสนอมากๆ คิดลายเอง ทอลายเอง 
มีชื่อด้วยน๊าาา ถ้าสนใจก็สามารถซื้อได้ค่ะ 




ได้เวลาเดินทางไปที่พักของเราในค่ำคืนนี้แล้ว
เราเดินทางไปที่ บ้านโพธิ์กอง จังหวัดสุรินทร์ 
พักโฮมสเตย์ค่ะ และแน่นอนค่ะ มีการต้อนรับอย่างดีเช่นกัน



 มีการแสดงจากเด็กๆ และบายศรีสู่ขวัญค่ะ







วันนี้เราได้รับการต้อนรับที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม และความจริงใจ 
จากทั้ง3หมู่บ้าน เรียกได้ว่าประทับใจสุดๆ 

ชาวบ้านก็มีความสุข ที่พวกเราไปหาเขาเหมือนกัน 
วันนี้ยังไม่มีจังหวะหิวให้ท้องร้องเลยค่ะ 
อิ่มกันอย่างต่อเนื่องจนถึงเวลานอน 5555


โฮมสเตย์ของเราในค่ำคืนนี้เป็นของ คูณป้าบุญจันทน์ จำนงเพียร 
สะอาด ใจดี เตรียมพร้อมที่นอนและเครื่องใช้อาบน้ำให้พร้อมเลยค่ะ



ทุกๆหมู่บ้านที่เราไป ผู้ใหญ่บ้านและคนในชุมชน
เขามีความตั้งใจที่จะพัฒนาหมู่บ้านให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว 
หรือสามารถนำฝีมือที่เขามีมาต่อยอดเป็นสินค้า otop 
เพื่อช่วยเหลือคนในชุมชนให้มีงานทำ 
มีรอยยิ้ม และมีความภูมิใจกับฝีมือที่เขามีค่ะ 

แต่ต้องยอมรับจริงๆค่ะว่าสินค้าหัตถกรรมของพวกเขาดีจริงๆ 
เข้าใจเลยว่าทำไมผ้าไหม ถึงมีราคาขนาดนี้ 
เพราะกว่าจะออกมาเป็นผ้าไหมสวยๆ1ผืน 
มันต้องแลกมาด้วยความตั้งใจหลายๆอย่าง 

เดี๋ยวมาชมกันต่อค่ะว่าพรุ่งนี้เราจะไปทำกิจกรรมอะไรต่อ
สำหรับวันนี้ ลาไปพักผ่อนกันก่อนที่บ้านพักชอบหมู่บ้านโพธิ์กอง จ้าาาา





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น