วันพุธที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2561

อาสามาเที่ยว : อีสาน กัมพูชา Ep.2


อรุณสวัสดิ์ เช้านี้ที่บ้านโพธิ์กอง จ.สุรินทร์

ปล.ท้ายบทความมีคลิปให้ชมค่ะ


บ้านพักนอนหลับสบายมากค่ะ


ชาวบ้านทำข้าวต้มไว้ให้พวกเรา อร่อยมากๆ


โปรแกรมแรกที่เราจะไปวันนี้คือ 
ไปชมสินค้าประจำหมู่บ้าน นั่นก็คือผ้าไหมค่ะ 


อย่างที่ทราบกันดีว่า ชาวอีสานส่วนใหญ่ถนัดเรื่องการทอผ้าไหม 
แต่เขาก็มีลวดลายที่แตกต่างกันไปตามแต่ละชุมชน


ต่อจากชมผ้าไหมแล้ว ก็ไปต่อที่บ้านสมุนไพรของคุณลุงเสวย 



ที่นี่เรียกได้ว่าเป็นสวนสมุนไพรเลยทีเดียว 


หยิบจับต้นอะไรก็เป็นยาได้หมดทุกอย่าง



คุณลุงให้ความรู้ เรื่องการรักษาโรคด้วยธรรมชาติอย่างละเอียด 
พร้อมทั้งพาเดินชมสวนสมุนไพรอย่างสนุกสนาน


จากนั้นเดินทางต่อไปที่ จ.ศรีษะเกษ เข้าชมปราสาทปรางค์กู่ 
โดยมีชาวบ้าน และผู้ใหญ่บ้านคอยต้อนรับเป็นอย่างดีค่ะ


ปราสาทปรางค์กู่ สร้างในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่7 
เป็นเทวสถานของศาสนาพราหมณ์  
สันนิษฐานว่าใช้เป็นอโรคยาสถาน หรือโรงพยาบาลในสมัยนั้นค่ะ


ปราสาทแห่งนี้ได้รับอิทธิพลศิลปะมาจากเขมร
โดยมีลักษณะเป็นปรางค์3องค์ 

ปรางค์ที่1 และ2 สร้างด้วยอิฐมอญขนาดใหญ่ 
ปรางค์ที่3 สร้างด้วยศิลาแลง



 โดยแต่ละปรางค์มีการแกะสลัก และมีทับหลังที่สวยงาม 

แต่ปัจจุบันยอดปราสาทได้พังทลายลงมา 
ลายสลักเสา และทับหลังได้ถูกขโมยไป


บางส่วนที่สามารถตามคืนมาได้ หรือยังรักษาไว้ได้ 
จึงถูกนำไปเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติพิมาย 
และสร้างจำลองขึ้นมาไว้ในสถานที่จริงแทนค่ะ


หลังจากนั้นเราก็เข้าไปที่ชุมชนชาวดงกุย 


ชุดที่เขาใส่อยู่นี้ เป็นชุดประจำเผ่า หรือชุมชนของเขา 


สีดำซึ่งย้อมมาจากเมล็ดมะเกลือ 
โดยจะต้องย้อมอยู่หลายครั้งมากๆกว่าจะได้สีดำเข้มออกมา

ชุมชนชาวดงกุยต้อนรับเราด้วยการบายศรีฯ 
การแสดงรำและอาหารพื้นบ้าน ที่เขาภูมิใจนำเสนอมากๆก็เป็นแกงมันปูค่ะ




หลังจากอิ่มอร่อยและเพลิดเพลินกับการแสดงแล้ว 
ก็ร่วมทำกิจกรรมที่ทางชุมชนเตรียมไว้ให้ค่ะ

อันนี้เป็นการจำลองที่พักมาให้เราชมกัน ว่าเขาเป็นอยู่กันอย่างไร 


สาธิตวิทีการย้อมผ้า และทอผ้า ตามแบบฉบับชาวดงกุย


ลูกมะเกลือ เขาต้องเอามาตำจนละเอียด
ก่อนที่จะนำไปหมัก ย้อม ตาก วนอยู่หลายครั้ง 
เพื่อได้มาซึ่งสีดำแบบชาวดงกุยค่ะ





ต้องผ่านหลายด่านจริงๆ กว่าจะได้ผ้าสวยๆ1ผืน






และให้เราทำขนมประจำชุมชนเขาด้วย 
นั้นก็คือ ไปรกะซังค่ะ 


ก็จะมีลักษณะคล้ายๆขนมไข่เต่า ที่เราคุ้นเคยกัน อร่อยดีค่ะ




สมควรแก่เวลา เดินทางต่อไปที่ชายแดน 
ด่านชองสะงำ จ.ศรีษะเกษ เพื่อข้ามไปประเทศกัมพูชากันค่ะ


ก่อนข้ามด่านก็แวะชมวิวกันเล็กน้อย


วิธีข้ามด่านก็ไม่ยากเลย ยื่นพาสปอร์ตให้เจ้าหน้าที่
เขาก็จะให้ใบ ตม. เรามา 
กรอกเสร็จก็ส่งคืนเขา รอเจ้าหน้าที่ปั้มอนุมัติก็ผ่านแล้วจ้าาา



เมื่อข้ามด่านมาแล้ว ก็มีรถบัสคันเล็กมารับพวกเรา พร้อมกับไกด์1 คน

นั่งรถชมวิวระหว่างทางมาหลายชั่วโมง 
จนเข้าถึงตัวเมือง ไกด์ก็แวะให้เราแลกเงินก่อนค่ะ 



โดยให้เลือกว่าจะแลกเป็นเงิน US หรือ เรียล 
เราแลกเป็นเงินเรียล เพราะเวลาซื้อของ ทางร้านเค้าจะทอนเงิน
เป็นเงินเรียลเท่านั้น แลกสกุลอื่นก็กลัวจะเสียเรทค่ะ 

และแน่นอน จากประสบการณ์ตรง เราคิดถูกค่ะ 
ยอมพกเงินหนาๆ ยอมเสียเวลากับการนับเงิน 
คิดเงินเล็กน้อย คุ้มกว่ากันเยอะจ้าาา 

จากนั้นไกด์ก็พาเราส่งที่โรงแรมค่ะ 
นี่คือหน้าตาที่พักของเรา มีความใหญ่โต หรูหรา ดีงาม 


ทางโรงแรมมี wifi ให้ แม้ว่าจะไม่ค่อยเสถียรอยู่บ้าง 



หลังจากพักผ่อนเก็บของ ล้างหน้าล้างตาแล้ว 
ก็พากันออกไปหาอะไรทานกันที่ Night market 

อยู่ไม่ไกลจากโรงแรมค่ะ


อยากบอกว่า... ภาพที่เห็นมันไม่เหมือนที่จินตนาการไว้เลยยยย


มันคึกครื้นมากๆ เป็นแหล่งท่องเที่ยวจริงๆ 
แสงสีเสียงครบ บางมุมก็นึกว่าเดินอยู่ใน เอเชียทิค เหมือนกันนะ



มาถึงกัมพูชาก็สั่งอาหารไทยสิคะ !!!! 555555
มาร้านอาหารไทยกันอ่ะค่ะ


จานนี้คือกระเพราไก่ รสชาตินักท่องเที่ยว 
คือกลางๆ ไม่จัดจ้าน 



อิ่มท้องแล้วก็ออกมาเดินสำรวจตลาด 
มีของกินพิสดารเต็มไปหมดเลยค่ะ


 นี่เลยคุณเอส หนึ่งในทีมงาน


จัดแมงป่องไป1ตัว


 น้องเต้ยไม่ยอมแพ้ จัดงูน้ำไป1ตัวเช่นกัน



ส่วนเรานั้น .... ขอบายจ้าาาา 
ใสๆที่ไอติมผัดแล้วกัน




ไอติมผัด เป็นเมนูธรรมดาที่เราก็เรยเจอที่ไทยอยู่บ่อยๆ 
แต่ด้วยความที่ถนนเส้นนี้ มีร้านไอติมผัดเกือบทุก50เมตร 
เลยลองดูสักหน่อยแล้วกัน


เอาตรงๆเลยนะ อร่อยกว่ากินที่ไทยอ่ะ 
ไม่รู้ว่าเพราะฟิลมันได้ หรือว่าอะไร


อันนี้เคบับค่ะ เมนูของหนึ่งในทีมงาน


เพิ่งทานข้าวกันมาเองน๊าาา


ตรงนี้จะเป็น Pub street 


ฟีลจะคล้ายๆก้บถนนข้าวสาร 
คือเป็นนักท่องเที่ยว ชาวยุโรปเป็นส่วนใหญ่ 
เปิดเพลงมันส์ๆ เพราะๆ เฮฮาากันสุดๆ


 มี duty fee ด้วยนะ


สมควรแก่เวลา ต่างคนต่างได้ของติดไม้ติดมือกลับที่พัก


แยกย้ายกันไปนอน 
พร้อมยาพาราเซตามอน ราคา80บาท


แล้วพบกันใหม่วันพรุ่งนี้ค่ะ เราจะไปเที่ยวนครวัด นครธมกัน





1 ความคิดเห็น:

  1. ต้องไปสัมผัสสักครั้งแล้วจะหลงรักมนเสน่ห์อารยธรรมขอมเขตอีสานใต้-กัมพูชา

    ตอบลบ