วันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

WHERE ME GO : OK เบตง !!! ใต้สุดแดนสยาม (Part 2)


กลางดึกเราตื่นมาด้วยความตกใจจากเสียงของ
กลุ่มคนจีน ที่ขึ้นมาในขบวนรถไฟของเรา



บอกก่อนว่าช่วงเวลาที่เราเดินทางนั้น
คือช่วงที่กรุงเทพมีมลพิษทางฝุ่น  PM2.5 สูงมาก

พวกเราหนีฝุ่นลงใต้ พื้นที่ที่อากาศดีที่สุดในประเทศไทย
แต่ก็มิวาย งานงอก ไวรัสอู่ฮั่นระบาดซะอย่างงั้น

ทำให้ต้องระวังและป้องกันเป็นพิเศษ จากคนจีนรอบตัว
และคนที่เพิ่งมาจากประเทศจีน

.....

หลังจากงัวเงียตื่นมาหยิบหน้ากากมาใส่ 
แล้วหลับไปอีกตื่นน

สวัสดีวันที่สองของการเดินทาง

วันพฤหัสบดีที่ 30 มกราคม 2020 ( 05.40 น. )

ม่านของเพื่อนๆยังปิดสนิทดี 



เหมือนยังไม่มีใครตื่นห้องอื่นๆก็เช่นกัน

อาศัยจังหวะนี้ ไปล้างหน้าแปรงฟันให้เรียบร้อยดีกว่า



ตามกำหนดการ 07.20 เราจะต้องถึงหาดใหญ่แล้ว
แต่เรายังอยู่พัทลุงอยู่เลยจ้าาาา

เพื่อนๆเริ่มทยอยเปิดม่านมาทักทาย
ก่อนที่จะทยอยหลับกันไปอีกรอบ

ก่อนจะถึง เราโทรหาเบอร์รถตู้ที่หาจาก Google
บริการรถรับส่ง หาดใหญ่ ปีนัง



เขาบอกรอบที่เร็วสุดคือ 9.00 รอบต่อไปคือ 12.00
ก็เลยยังไม่ได้ทำการจองใดๆ 
เพราะไปถึงหาดใหญ่ก็ 8.40 แล้ว หิวข้าวกันด้วย

เลยเลือกไปหาข้าวเช้ากินก่อน เดี๋ยวค่อยว่ากัน
รวมเวลานั่งนอน บนรถไฟประมาณ 18 ชั่วโมงเลยจ้าาา
.....

ระหว่างเดินออกจากรถไฟ ก็มีคนมาขายรอบรถ
โดยราคาอยู่ที่ 600 บาทต่อคน 
ซึ่งมันแพงเดินไปจากที่อ่านรีวิว

จังหวะเดียวกับที่บริษัทก่อนหน้านี้ที่เราติดต่อไว้
โทรกลับมาคอนเฟิร์มเรื่องการเดินทาง
โดยให้ราคาที่ 500 บาท ต่อคน เหมารถไป 
และรอเรากินข้าวได้ พวกเราจึงตกลงที่จะไปกับเขา

จริงๆถูกกว่านี้ก็มี เป็นของ KST 
ราคาอยู่ที่ประมาณ 450 บาท

.........




ออกจากสถานีรถไฟ ก็นั่งรถตุ๊กๆไปร้านอาหาร
เหมาไป 4 คน 100 บาท

เช้านี้ที่หาดใหญ่ โชคดีติ่มซำแตเตี๊ยมเลยจ้าาาา

เป็นร้านดังของหาดใหญ่ ใครมาแล้วไม่ได้มากิน
ถือว่ามาไม่ถึง ( เขาบอกกันมาแบบนั้น )







จัดไป ชุดใหญ่ไฟกระพริบสำหรับมื้อเช้า








......

พลังงานเต็มแล้ว ออกเดินทางต่อได้
นั่งตุ๊กๆ ให้ไปส่งที่บริษัทรถ 20 บาท ต่อคน

จริงๆให้รถมารับที่ร้านก็ได้นะ แต่นั่นแหละ
ยังเช้าอยู่ สมองทำงานไม่ค่อยเต็มที่ นึกไม่ทันค่ะ






นี่คือรถที่จะพาพวกเราทั้ง 4 คน
ออกเดินทางจากหาดใหญ่ สู่ปีนัง ถึงหน้าโรงแรมเลย




ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง
อย่าลืมพาสปอร์ตด้วยนะทุกคนนนนนนนน

.....

เรื่องเล่าระหว่างทาง บางครั้งก็สนุกกว่าปลายทาง
ที่เรากำลังไป
การเหมารถมาครั้งนี้ ก็แปลกๆดีเหมือนกัน

พวกเราทั้ง 4 คนมีความสงสัยว่า 
คนขับรถเขาคุ้มค่าเดินทางยังไง
ลองมาช่วยกันคิดก็ได้นะคะ

ค่ารถ คนละ 500 บาท 4 คนเป็นเงิน 2,000 บาท

พาข้ามด่านส่งถึงหน้าโรงแรม

ระหว่างทาง รถของเราจอดเป็นระยะๆ
เนื่องจากเป็นทะเบียนไทย พอข้ามด่านไปมาเลเซีย
ก็จะโดนเรียกบ่อยๆ ปรับบ่อยๆ หลายด่านเลยแหละ

ต่อให้ใช้แก๊ส ก็ไม่น่าจะคุ้ม ทั้งเวลา กับเงินค่าปรับ

แต่นั้นแหละ เขาคงไปเฉลี่ยกับรอบที่ไม่โดนจับ

..........

เรานั่งรถกันมาเรื่อยๆ ถึงด่านไทย
คนขับรถจะบอกทางเรา และจะไปรอเราอีกฝั่งนึง



ลงจากรถ พร้อมพาสปอร์ต เดินเข้าไปต่อแถว
เพื่อสแตมป์เล่มที่ ด่านตรวจคนเข้าเมือง


แล้วเดินออกประตูอีกฝั่ง ก็จะเจอรถของเรามารอรับอยู่




ใช้เวลาประมาณ 10 นาที

นั่งรถต่อไปอีกซักพัก ก็จะเป็นด่านมาเลเซีย 
คนขับรถจะรวมพาสปอร์ตเรา และส่งให้เจ้าหน้าที่
เป็นตู้คล้ายๆเวลาเราขึ้นทางด่วน
( ถ่ายรูปไม่ได้ เลยไม่มีภาพให้ดูนะคะ )

จากนั้น เจ้าหน้าที่ก็จะเรียกทีละคนไปสแกนนิ้วชี้สองนิ้ว
ประทับตรา ก็ผ่านเข้ามาเลเซียแล้วจ้าาา

จากด่าน นั่งรถไปอีกซักพักใหญ่ ถึงที่พักของเรา
อ่อ บนรถมี wifi ให้ใช้ด้วยนะ แต่เนทไม่ค่อยดีเท่าไหร่





ที่พักของเราอยู่ที่ จอร์จทาว์น ปีนังเลยค่ะ
WASSUP   YOUTH  HOSTEL
เดินทางสะดวก ราคาดีมาก แนะนำเลยค่ะ

ระหว่างทางเราก็จะคอยสังเกตุป้ายต่างๆ
เผื่อขากลับ เพราะเราไม่รู้เลยจริงๆว่า
จากปีนัง ไปเบตงยังไง

คนขับก็ไม่รู้ คนท้องถิ่นก็ไม่รู้
เพราะส่วนใหญ่เขาก็ขับรถมากันเอง



เอาล่ะ เราถึงที่พักเวลาประมาณ 14.00 น.
รถจอดหน้าที่พักเลย เชคอินพร้อมมัดจำ 50 ริงกิต

ขึ้นไปอาบน้ำ แต่งตัว แล้วไปตะลุย 
จอร์จทาวน์ ปีนังกันต่อค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น